นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยถึงดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนประจำเดือนกรกฎาคม 2563 ว่า ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนในอีก 3 เดือนข้างหน้า คือเดือนกันยายน เพิ่มขึ้น 4% อยู่ที่ 101.19 จาก 96.93 อยู่ในเกณฑ์ทรงตัวเหมือนเดือนก่อน นักลงทุนคาดหวังการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศเป็นปัจจัยหนุนมากที่สุด รองลงมาคือนโยบายภาครัฐ และการไหลเข้าออกของเงินทุน อย่างไรก็ตาม ความกังวลต่อผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาสสองเป็นปัจจัยฉุดความเชื่อมั่นนักลงทุนมากที่สุด รองลงมาคือการไหลเข้าออกของเงินทุน และนโยบายทางการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ รวมถึงยังคงกังวลกับการระบาดรอบสองของโควิด-19
ทั้งนี้ ดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุนต่างชาติปรับขึ้นมาอยู่ในระดับร้อนแรง ที่ 125 ในขณะที่กลุ่มบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ปรับขึ้นมาอยู่ในระดับทรงตัว ที่ 100 สถาบันในประเทศปรับลดลงเล็กน้อย แต่ยังอยู่ในระดับทรงตัว ที่ 100 กลุ่มนักลงทุนบุคคลปรับตัวลงอยู่ในระดับซบเซา ที่ 71.79
สำหรับหมวดธุรกิจที่น่าสนใจมากที่สุด คือ หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ส่วนหมวดธุรกิจที่ไม่น่าสนใจมากที่สุด คือหมวดธนาคาร
ขณะที่ปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ต้องติดตาม ได้แก่ ผลกระทบทางเศรษฐกิจจากความขัดแย้งระหว่างประเทศต่างๆ อาทิ สงครามการค้าระหว่างสหรัฐญ และจีน ความขัดแย้งบริเวณชายแดนจีน-อินเดีย การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยในประเทศที่น่าติดตาม ได้แก่ ผลกระทบของโควิด-19 ต่อเศรษฐกิจ การผ่อนคลายการล็อคดาวน์ และมาตรการสนับสนุนต่างๆ ทั้งมาตรการด้านการคลัง มาตรการด้านสินเชื่อ และมาตรการด้านการเงิน