ก.ล.ต.เผยผลสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนรายย่อย พบว่ายังมีความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย โดยร้อยละ 50 ของผู้ตอบแบบสอบถามวางแผนจะลงทุนเพิ่มในตลาดทุนไทยในช่วง 1 ปีข้างหน้า และพบว่าร้อยละ 75 ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าวางแผนจะลงทุนหุ้นกู้ในอีก 3 เดือนข้างหน้า เป็นกลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่
สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้จัดทำแบบสอบถามสำรวจความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทยของผู้ลงทุนรายย่อย ระหว่างวันที่ 20 พฤษภาคม ถึง 7 มิถุนายน 2563 โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามจากทั่วประเทศจำนวน 1,270 ราย พบว่าผู้ลงทุนส่วนใหญ่ยังคงเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทย โดยร้อยละ 50 ของผู้ตอบแบบสอบถามระบุว่ามีการวางแผนที่จะลงทุนเพิ่มในตลาดทุนไทยในช่วง 1 ปีข้างหน้า ซึ่งในกลุ่มผู้ที่วางแผนจะลงทุนเพิ่มนั้นพบว่าครึ่งหนึ่งเป็นผู้ลงทุนที่ลงทุนในช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อยู่แล้ว และอีกประมาณ 1 ใน 4 เป็นผู้ลงทุนรายใหม่ โดยหุ้นไทยยังคงเป็นสินทรัพย์ที่ได้รับความนิยมสูงสุดเมื่อเทียบกับสินทรัพย์อื่น เช่น เงินฝาก พันธบัตร ตราสารหนี้เอกชน กองทุนรวม รวมถึงกองที่เน้นลงทุนในต่างประเทศ
นอกจากนี้ พบว่าความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนรายย่อยที่มีต่อตลาดตราสารหนี้ภาคเอกชนปรับตัวดีขึ้น สะท้อนจากสัดส่วนผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าวางแผนจะลงทุนในหุ้นกู้เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 3.6 ในช่วงที่มีการระบาดของ COVID-19 (กุมภาพันธ์-เมษายน 2563) เป็นร้อยละ 7.2 ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (มิถุนายน-สิงหาคม 2563) และในจำนวนของผู้ตอบแบบสอบถามที่ระบุว่าวางแผนจะลงทุนในหุ้นกู้เพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนข้างหน้านั้น มากกว่าร้อยละ 75 เป็นกลุ่มผู้ลงทุนรายใหม่