นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยถึงรายละเอียดของโครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจ สังคม ภาคการท่องเที่ยว หลังจากที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ เพื่อบรรเทาผลกระทบภาคการท่องเที่ยวที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่า โครงการดังกล่าวมีระยะเวลาดำเนินโครงการ 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกรกฎาคมถึงตุลาคมนี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 22,400 ล้านบาท
ภายใต้การดำเนินงาน 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการกำลังใจ รัฐบาลสนับสนุนค่าเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศให้กับอาสาสมัครสาธารสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ทั่วประเทศจำนวน 1.2 ล้านคน คนละไม่เกิน 2,000 บาท รวมงบประมาณ 2,400 ล้านบาท โครงการเราไปเที่ยวกัน รัฐบาลสนับสนุนค่าโรงแรมที่พักในลักษณะร่วมจ่ายหรือ Co-pay ระหว่างนักท่องเที่ยวและรัฐไปยังผู้ประกอบการเพียงร้อยละ 40 ของค่าห้องพัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน เป้าหมาย 5 ล้านห้องทั่วประเทศ โดยเปิดให้รับสิทธิ์ 1 คนต่อ 5 คืน รวมถึงการสนับสนุนค่าอาหารและค่าใช้จ่ายสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการอีกไม่เกิน 600 บาทต่อคืน รวมวงเงินงบประมาณ 18,000 ล้านบาท และโครงการเที่ยวปันสุข รัฐบาลสนับสนุนการเดินทางให้กับประชาชนอายุไม่ต่ำกว่า 20 ปี เดินทางด้วยระบบขนส่งสาธารณข้ามจังหวัด จำนวน 2 ล้านคน ในกลุ่มผู้ประกอบการสายการบิน รถขนส่งไม่ประจำทางข้ามจังหวัด และรถเช่าในอัตราร้อยละ 40 ของราคาบัตรโดยสาร แต่ไม่เกิน 1,000 บาท รวมงบประมาณ 2,000 ล้านบาท คาดว่าทั้ง 3 โครงการจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจมีเม็ดเงินหมุนเวียนทางตรงไม่ต่ำกว่า 45,000 ล้านบาท และทางอ้อมไม่ต่ำกว่า 25,000 ล้านบาท เกิดการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 43,000 คน กระตุ้นตัวเลขเศรษฐกิจ (GDP) ไม่น้อยกว่าร้อยละ 0.3 รวมถึงภาคการบริโภคขยายตัวร้อยละ 0.5
สำหรับแนวทางการดำเนินงาน ธนาคารกรุงไทย ได้จัดทำแพลตฟอร์มสำหรับใช้เป็นช่องทางในการรวบรวมข้อมูลและรายละเอียดโรงแรมที่พัก รายการนำเที่ยวจากบริษัทนำเที่ยว รายละเอียดบัตรโดยสารของผู้ประกอบธุรกิจขนส่งเพื่อการท่องเที่ยว ร้านอาหารและสถานที่ท่องเที่ยวที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อตรวจสอบการจดทะเบียนตามกฎหมายร่วมกับ ททท. จากนั้นผู้ประกอบการที่เข้าร่วมโครงการจะนำเสนอรายละเอียดสินค้าและบริการในแพลตฟอร์มตามข้อกำหนดด้านราคาที่กำหนดในรายละเอียดของโครงการ โดย ททท. จะทำหน้าที่ในการสื่อสารโครงการเพื่อให้นักท่องเที่ยวแจ้งความต้องประสงค์ขอรับสิทธิ์หรือดำเนินการซื้อสินค้าบริการในแพลตฟอร์ม แล้วชำระค่าบริการตามข้อกำหนดของโครงการแล้วจะได้รับสิทธิ์ในการใช้บริการ การใช้จ่าย หรือการคืนเงินจะผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ของธนาคารกรุงไทย อย่างไรก็ตาม คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะมีความชัดเจนและจะนำเสนอรายละเอียดขั้นตอนวิธีการดำเนินโครงการทั้งหมดต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป