ผู้จัดการรายวัน360 - มาตรการไทยเที่ยวไทยมาแล้ว ครม.ทุ่ม 22,400 ล้านบาท อนุมัติ 3 แพคเกจกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังวิกฤตโควิด-19 คลี่คลาย ททท. เร่งหารือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง-ผู้ประกอบการ หาแนวทางปฏิบัติ เพื่อนำเสนอ ครม. ภายใน 2 สัปดาห์ ก่อนจะเริ่มโครงการได้ทัน 1 ก.ค.นี้ "อนุทิน"เผย แทรเวิล บับเบิล ยังไม่เสนอเข้าครม. มีสถานทูตหลายประเทศขอเจรจาร่วมโครงการ ชี้ต้องยอมรับกติกาป้องกันโควิด-19 ของไทยให้ได้
วานนี้ (16 มิ.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย 3 โครงการ วงเงินรวม 22,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการท่องเที่ยวปันสุข เราเที่ยวไปด้วยกัน และท่องเที่ยวกำลังใจ ซึ่งคาดจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม - ตุลาคมนี้
สำหรับรายละเอียดของ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการท่องเที่ยวกำลังใจ สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 120,000 คน ให้ไปท่องเที่ยวเพื่อเป็นการตอบแทน ในการเป็นด่านหน้ารับมือกับโรคระบาด โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินให้ไม่เกินคนละ 2,000 บาท กำหนดให้เดินทางท่องเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น และวันท่องเที่ยวต้องไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน รวมรัฐบาลใช้งบประมาณสนับสนุนโครงการนี้ 2,400 ล้านบาท
โครงการเราไปเที่ยวด้วยกัน สนับสนุนค่าโรงแรมที่พักแบบรวมจ่ายรวม 5 ล้านคืนทั้งโครงการ ในอัตราไม่เกิน 40 % ของค่าห้องพัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน รวมถึงสนับสนุนค่าใช้จ่าย 600 บาท ต่อห้องต่อคืน ผ่านแอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง” สูงสุดไม่เกิน 5 คืน และการท่องเที่ยวต้องเป็นการท่องเที่ยวต่างจังหวัดเท่านั้น รวมงบประมาณสนับสนุนในโครงการนี้ 18,000 ล้านบาท
โครงการเที่ยวปันสุข รัฐบาลจะสนับสนุนการเดินทางของประชาชน ไม่น้อยกว่า 2,000,000 คน โดยจำหน่ายบัตรโดยสารขนส่ง ทั้งสายการบิน รถเช่า รถไม่ประจำทาง ในอัตรา 40 % แต่ไม่เกิน 1,000 บาท แต่หาก ประชาชนมีการใช้สิทธิ์ ทั้ง 2 กรณี จะได้รับสิทธิ์จองบัตรโดยสารสายการบินไป-กลับ ราคา 2,500 บาทอีก 1 สิทธิ์
ทั้งนี้ โรงแรม โฮมสเตย์ที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยทางธนาคารกรุงไทย กำลังทำระบบการลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มอยู่ ควบคู่แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จะเชิญผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือถึงแนวทางปฎิบัติร่วมกันภายในสัปดาห์นี้ ก่อนจะเสนอเข้า ครม. พิจารณาขั้นตอนอีกครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ดำเนินโครงการได้ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้
อนุทินเผย"แทรเวิล บับเบิล"ยังไม่เข้าครม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงแนวคิดจับคู่ประเทศการท่องเที่ยว หรือ แทรเวล บับเบิล ว่า เรื่องนี้ยังไม่บรรจุในวาระที่ประชุมครม. โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องเตรียมในเรื่องการกำหนดข้อตกลง และขณะนี้มีสถานทูตจากหลายประเทศ ยื่นหนังสือเข้ามาแสดงเจตนารมณ์ ถ้าเป็นกรณีฟาสต์เลน หรือ กรีนเลน จะต้องทำอย่างไรบ้าง อาจกำหนดประเภทของคนที่จะเข้ามา แต่อาจยังไม่ถึงขั้นของนักท่องเที่ยว
ส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะพิจารณาอย่าไร เนื่องจากขณะนี้มีการระบาดระลอกสองในจีนแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า จะพิจารณาจากสถานการณ์ภายในประเทศนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง วิธีการป้องกัน ตรวจสอบผู้ติดเชื้ออย่างไรบ้าง ถ้าจะเข้ามาในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถยอมรับวิธีการของไทยได้หรือไม่ ซึ่งจะต้องมีข้อตกลงระหว่างสองประเทศ โดยมีรายชื่อประเทศทั้งหมดอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรับกติกาซึ่งกันและกันได้ เพราะความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ.
วานนี้ (16 มิ.ย.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบหลักการมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย 3 โครงการ วงเงินรวม 22,400 ล้านบาท ได้แก่ โครงการท่องเที่ยวปันสุข เราเที่ยวไปด้วยกัน และท่องเที่ยวกำลังใจ ซึ่งคาดจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนกรกฎาคม - ตุลาคมนี้
สำหรับรายละเอียดของ 3 โครงการ ประกอบด้วย โครงการท่องเที่ยวกำลังใจ สำหรับอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) รวม 120,000 คน ให้ไปท่องเที่ยวเพื่อเป็นการตอบแทน ในการเป็นด่านหน้ารับมือกับโรคระบาด โดยรัฐบาลจะสนับสนุนเงินให้ไม่เกินคนละ 2,000 บาท กำหนดให้เดินทางท่องเที่ยวกับบริษัทนำเที่ยวเท่านั้น และวันท่องเที่ยวต้องไม่น้อยกว่า 2 วัน 1 คืน รวมรัฐบาลใช้งบประมาณสนับสนุนโครงการนี้ 2,400 ล้านบาท
โครงการเราไปเที่ยวด้วยกัน สนับสนุนค่าโรงแรมที่พักแบบรวมจ่ายรวม 5 ล้านคืนทั้งโครงการ ในอัตราไม่เกิน 40 % ของค่าห้องพัก แต่ไม่เกิน 3,000 บาทต่อคืน รวมถึงสนับสนุนค่าใช้จ่าย 600 บาท ต่อห้องต่อคืน ผ่านแอปพลิเคชั่น "เป๋าตัง” สูงสุดไม่เกิน 5 คืน และการท่องเที่ยวต้องเป็นการท่องเที่ยวต่างจังหวัดเท่านั้น รวมงบประมาณสนับสนุนในโครงการนี้ 18,000 ล้านบาท
โครงการเที่ยวปันสุข รัฐบาลจะสนับสนุนการเดินทางของประชาชน ไม่น้อยกว่า 2,000,000 คน โดยจำหน่ายบัตรโดยสารขนส่ง ทั้งสายการบิน รถเช่า รถไม่ประจำทาง ในอัตรา 40 % แต่ไม่เกิน 1,000 บาท แต่หาก ประชาชนมีการใช้สิทธิ์ ทั้ง 2 กรณี จะได้รับสิทธิ์จองบัตรโดยสารสายการบินไป-กลับ ราคา 2,500 บาทอีก 1 สิทธิ์
ทั้งนี้ โรงแรม โฮมสเตย์ที่เข้าร่วมโครงการ จะต้องจดทะเบียนอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยทางธนาคารกรุงไทย กำลังทำระบบการลงทะเบียนผ่านแพลตฟอร์มอยู่ ควบคู่แอปพลิเคชั่น “เป๋าตัง”
นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า จะเชิญผู้ประกอบการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาหารือถึงแนวทางปฎิบัติร่วมกันภายในสัปดาห์นี้ ก่อนจะเสนอเข้า ครม. พิจารณาขั้นตอนอีกครั้ง ภายใน 2 สัปดาห์ข้างหน้า เพื่อให้ดำเนินโครงการได้ภายในวันที่ 1 ก.ค.นี้
อนุทินเผย"แทรเวิล บับเบิล"ยังไม่เข้าครม.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข กล่าวถึงแนวคิดจับคู่ประเทศการท่องเที่ยว หรือ แทรเวล บับเบิล ว่า เรื่องนี้ยังไม่บรรจุในวาระที่ประชุมครม. โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องเตรียมในเรื่องการกำหนดข้อตกลง และขณะนี้มีสถานทูตจากหลายประเทศ ยื่นหนังสือเข้ามาแสดงเจตนารมณ์ ถ้าเป็นกรณีฟาสต์เลน หรือ กรีนเลน จะต้องทำอย่างไรบ้าง อาจกำหนดประเภทของคนที่จะเข้ามา แต่อาจยังไม่ถึงขั้นของนักท่องเที่ยว
ส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนจะพิจารณาอย่าไร เนื่องจากขณะนี้มีการระบาดระลอกสองในจีนแล้ว นายอนุทิน กล่าวว่า จะพิจารณาจากสถานการณ์ภายในประเทศนั้นๆ ว่าเป็นอย่างไรบ้าง วิธีการป้องกัน ตรวจสอบผู้ติดเชื้ออย่างไรบ้าง ถ้าจะเข้ามาในประเทศไทย นักท่องเที่ยวสามารถยอมรับวิธีการของไทยได้หรือไม่ ซึ่งจะต้องมีข้อตกลงระหว่างสองประเทศ โดยมีรายชื่อประเทศทั้งหมดอยู่แล้ว เพียงแต่ต้องรับกติกาซึ่งกันและกันได้ เพราะความปลอดภัยของประชาชนเป็นสำคัญ.