xs
xsm
sm
md
lg

"คลัง-กรุงไทย" ได้ข้อสรุปทำเว็บจองสิทธิท่องเที่ยวปันสุขในสัปดาห์หน้า คาด จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการวันที่ 1 ก.ค.นี้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



"คลัง-กรุงไทย" เตรียมสรุปการจัดทำเว็บไซต์รองรับโครงการเที่ยวปันสุขฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ภายในสัปดาห์หน้า คาดจะเปิดตัวเว็บไซต์ให้คนไทยจองสิทธิเที่ยวตามโครงการนี้ได้ในวันที่ 1 ก.ค.นี้ ย้ำใครจองก่อนได้สิทธิก่อน

นายลวรณ แสงสนิท ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวถึงการจัดทำเว็บไซต์เพื่อรองรับการดำเนินโครงการเที่ยวปันสุขฟื้นฟูการท่องเที่ยวของประเทศไทยที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ว่า ในสัปดาห์นี้กระทรวงการคลังและธนาคารกรุงไทยจะหารือเพื่อสรุปในเรื่องดังกล่าว โดยคาดว่าวันที่ 1 ก.ค.63 จะสามารถจัดทำเว็บไซต์โครงการเที่ยวปันสุขฯ ได้ แต่ก่อนจะถึงวันเปิดตัวเว็บไซต์นั้นจะต้องทำการชี้แจงเพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนที่จะมาใช้งานการจองสิทธิในระบบเว็บไซต์ที่เวลานี้กำลังอยู่ระหว่างการตั้งชื่อเว็บ เพื่อให้คนจำได้ง่ายๆ

ทั้งนี้ เว็บไซต์ดังกล่าวจะมีขึ้นเพื่อใช้สำหรับการจองเที่ยวในโครงเราไปเที่ยวกัน ซึ่งรัฐบาลได้ให้สิทธิ 1 คนต่อการค้างคืนได้ 5 คืน โดยไม่จำกัดราคาค่าห้อง โดยรัฐบาลจะช่วยจ่ายให้ 40% หรือไม่เกิน 3 พันบาทต่อคืน ประชาชนที่สนใจจะต้องเข้ามาดูรายชื่อโรงแรมที่พักที่เข้าร่วมโครงการในเว็บไซต์ที่จะเปิดตัว และทำการจองตรงกับโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ และจะต้องจ่ายเงินให้แก่โรงแรมที่พักทันทีในอัตรา 60% เพื่อให้โรงแรมมีเงินไปหมุนเวียน

หลังจากจองที่โรงแรมได้แล้ว ประชาชนจะต้องมาลงทะเบียนในระบบของเว็บไซต์เดิมอีกครั้งหนึ่ง เพื่อที่เป็นการยืนยันตัวตนว่าจะไปท่องเที่ยว และระบบจะโอนเงิน 40% ค่าที่พักให้แก่โรงแรม พร้อมกับโอนวงเงิน 600 บาทต่อคืนให้แก่ผู้ไปเที่ยวผ่านแอปพลิเคชันเป๋าตุง ในวันที่ผู้จองเข้าเช็กอินที่โรงแรมที่พักวันแรก โดยเงินจะจ่ายทุกวัน วันละ 600 บาท แต่ต้องใช้ให้หมดภายในวันที่เช็กเอาต์ก่อนเวลาเที่ยงคืน

ผู้อำนวยการ สศค. ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับสิทธิจองเที่ยว 1 คนต่อคน 5 คืนนั้น ผู้ได้รับสิทธิสามารถการท่องเที่ยวไปตามจังหวัดต่างๆ ได้ เช่น อาจจะไปพักหัวหิน 2 คืน และไปพักเชียงใหม่อีก 3 คืน เพียงแต่ขอให้อยู่ในระยะเวลาโครงการที่กำหนดตั้งแต่เดือน ก.ค.-ต.ค.63 นอกจากนี้ ระบบดังกล่าวยังได้กำหนดให้สิทธิการเข้าร่วมโครงการแก่ผู้ที่ลงทะเบียนก่อน ทั้งนี้เนื่องจากโครงการนี้มีการจำกัดสิทธิไว้ที่ 5 ล้านคน โดยระบบได้ออกแบบมาเพื่อให้มีการกระจายการท่องเที่ยวไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศ และให้กับผู้ที่ตั้งใจจะเที่ยวจริงๆ จึงให้มีการจ่ายเงินทันทีแก่ผู้ประกอบการโรงแรม ส่วนหนึ่งเพื่อต้องการช่วยให้โรงแรมมีเงินไปหมุนเวียนก่อน

สำหรับการจ่ายเงินให้ผู้ได้รับสิทธิตามโครงการฯ คืนละ 600 บาทนั้น ผู้ได้รับสิทธิจะไม่สามารถกดเป็นเงินสดได้ แต่สามารถใช้ได้ 3 ที่ คือ 1.ร้านอาหารในโรงแรมที่เข้าพัก 2.ร้านอาหารนอกโรงแรมที่เข้าร่วมโครงการ ซึ่งจะมีทั้งร้านอาหารขนาดใหญ่ เล็ก และร้านอาหารริมทาง ซึ่งจะมีรายชื่อปรากฏในเว็บไซต์ และ 3.การแสดงที่ต้องซื้อบัตรเข้าชม โดยการใช้ต้องเป็นการร่วมจ่ายกับรัฐบาล คือ รัฐบาลจ่ายให้ 40% เช่น ทานอาหารในโรงแรม 1 พันบาท ระบบจะคิดเงิน 600 บาท ส่วนอีก 400 บาทระบบจะตัดจากวงเงินที่ได้ 600 บาท โดยอัตโนมัติ

นอกจากนี้ เว็บไซต์ที่จะเปิดตัวยังสามารถใช้กับโครงการเที่ยวปันสุข โดยให้ผู้จองสิทธิในโครงการเราไปเที่ยวกัน สามารถจองตั๋วสายการบินที่เป็นลักษณะการร่วมจ่าย และจะมีสายการบินทั่วไปเข้าร่วมโครงการในเว็บไซต์ เนื่องจากรัฐบาลไม่ได้กำหนดข้อจำกัดแค่สายการบินต้นทุนต่ำที่เข้าร่วมโครงการได้ ทั้งนี้ รัฐบาลจะร่วมจ่ายให้ 40% แต่ไม่เกิน 1,000 บาท และได้สิทธิคนเดียวครั้งเดียว

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังอยู่ระหว่างการหารือกับสายการบินว่าจะสามารถจ่ายเงินในลักษณะของโรงแรมได้หรือไม่ คือให้ประชาชนจ่าย 60% ของราคาตั๋ว ส่วน 40% ไม่เกิน 1,000 บาท รัฐบาลจะโอนตรงให้แก่สายการบิน หรือประชาชนรับผิดชอบจ่ายทั้งหมด 100% ก่อน และรัฐบาลจะจ่ายส่วนลดคืนให้ประชาชนโดยตรง สำหรับการกำหนดสิทธิสำหรับประชาชนในส่วนของสายการบินนั้น รัฐบาลจะให้สิทธิแค่เพียง 2 ล้านสิทธิ

นายลวรณ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า กระทรวงการคลังเป็นผู้สนับสนุนระบบให้แก่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ที่เป็นผู้คิดและออกมาตรการ ทั้งนี้ จะมีการหารือกันอย่างรอบคอบ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา และให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างแท้จริง ซึ่งคาดว่าจะมีเงินหมุนเวียนในธุรกิจท่องเที่ยวเพื่อช่วยผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องได้ในระดับหนึ่ง โดยคาดว่าจะมีเม็ดเงินหมุนเวียนหลายหมื่นล้านบาทในธุรกิจท่องเที่ยวช่วงโลว์ซีซัน ช่วยผู้ประกอบการต่อลมหายใจได้ก่อนถึงช่วงไฮซีซันต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น