นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย หรือ รฟท. กล่าวว่า รฟท.ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยของส่วนรวมในการเฝ้าระวังและป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 อย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง ตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคม เพื่อความปลอดภัยของประชาชนและผู้ใช้บริการ โดยได้ดำเนินมาตรการในด้านต่าง ๆ ดังนี้
1. การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น โดยการตรวจวัดอุณหภูมิก่อนใช้บริการที่สถานีรถไฟทุกครั้ง หากพบอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาเซลเซียส ขอให้ผู้โดยสารหลีกเลี่ยงการเดินทาง หากจําเป็นต้องเดินทางขอให้มีใบรับรองแพทย์แสดง และกรอกแบบประเมินและรับรองตนเองเพื่อคัดกรองและยืนยันตนก่อนการเดินทาง หรือหากมีอาการต้องสงสัยเข้าข่ายโรคดังกล่าวจะดำเนินการประสานหน่วยงานสาธารณสุขในพื้นที่โดยเร็ว
2. จัดเจ้าหน้าที่ตรวจสอบระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน / นั่ง อย่างน้อย 1 – 2 เมตร ให้ชัดเจนทั้งที่สถานีและขบวนรถ
3. จำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้ว จะไม่จำหน่ายตั๋วอีกรวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) การจัดเดินรถโดยสารชนิดพัดลมเพื่อให้บริการเท่านั้น และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง
4. การให้คำแนะนำปฏิบัติเกี่ยวกับการปฏิบัติงานตามมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
5. อบรมการปฏิบัติงานและจัดลูกจ้างเฉพาะงานทำหน้าที่พนักงานรถนอน ช่วยทำหน้าที่อำนวยความสะดวกและประชาสัมพันธ์ ตามมาตรการ Social Distancing เพื่อให้มีการรักษาระยะห่างช่วงการรอและขึ้นโดยสารในขบวนรถตามป้ายหยุดรถไฟ/ที่หยุดรถไฟ และสถานีในเขตกรุงเทพและปริมาณมณฑล
6. การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง
7. ให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ
8. การทำความสะอาดพื้นที่บริเวณภายในสถานี พื้นที่โดยรอบสถานี และบนขบวนรถ พร้อมฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อโรค เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไวรัส
9.ใช้วิธีการเช็คอิน ผ่าน Application “ไทยชนะ” โดยการให้ผู้ใช้บริการสแกนคิวอาร์โค้ดที่สถานี เพื่อให้ทราบถึงความหนาแน่นของผู้โดยสารที่เข้ามารับบริการ ซึ่งจะง่ายต่อการติดตามผู้ป่วย หรือผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อผ่านระบบได้ โดยมีการแจ้งเตือนย้อนกลับไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่ได้ลงทะเบียนเอาไว้ และหากได้รับการแจ้งเตือนสามารถเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ที่หน่วยงานเกี่ยวข้องโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย ทั้งนี้ข้อมูลทุกอย่างจะเป็นความลับ สำหรับขั้นตอนวิธีการเช็คอิน ผ่าน Application ให้ผู้ใช้บริการปฏิบัติดังนี้
1. เมื่อผ่านจุดคัดกรองเรียบร้อยแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการเช็คอินเข้าสถานี
2 เมื่อซื้อตั๋วโดยสารเรียบร้อยแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อทำการเช็กเอาท์
3 เมื่อขึ้นขบวนรถโดยสารแล้ว ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้โดยสารเพื่อทำการเช็คอินขึ้นขบวนรถ
4 ก่อนลงจากขบวนรถ ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่ตู้โดยสารเพื่อทำการเช็กเอาท์ลงจากขบวนรถ
5 เมื่อถึงสถานีปลายทาง ให้สแกนคิวอาร์โค้ดที่สถานีเพื่อทำการเช็กอิน และเช็กเอาท์ออกจากสถานี
อย่างไรก็ตาม การใช้แอปพลิเคชั่นนี้จะทดแทนการจดบันทึก ที่เป็นการช่วยลดความยุ่งยากของประชาชน และปกป้องความเป็นส่วนตัวของประชาชนด้วย การรถไฟฯ ขอความร่วมมือประชาชน กรุณาสวมหน้ากากอานามัย หรือหน้ากากผ้าในการเดินทางรถไฟ และทำการกรอกรายละเอียดในแบบคำร้องประกอบการซื้อตั๋ว และสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องเดินทางข้ามเขตจังหวัด จะต้องกรอกข้อมูลคำถามสุขภาพ ตามแบบฟอร์ม ต.8/คค./รฟท. และได้รับการตรวจคัดกรองและต้องแสดงเหตุผลความจำเป็น พร้อมหลักฐานการอนุญาตของพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรการป้องกันตามที่ทางราชการกำหนด เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อไวรัสโควิด-19 ฉะนั้น จึงขอให้ผู้โดยสารมาถึงสถานีล่วงหน้าก่อนเวลาเดินทาง เพื่อความสะดวก รวดเร็ว ทั้งนี้สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่างๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือ สถานีรถไฟ หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย