xs
xsm
sm
md
lg

ร.ฟ.ท.เตรียมเปิดบริการรถทางไกล-ชานเมืองเพิ่ม 108 ขบวน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ร.ฟ.ท.เตรียมเปิดบริการรถทางไกล รถชานเมือง รถธรรมดา และรถท้องถิ่นเพิ่ม 108 ขบวน หลังปลดล็อกเฟส 3 เดินทางข้ามเขตจังหวัดในช่วงเวลาเคอร์ฟิวได้ เริ่ม 11 มิ.ย.เป็นต้นไป เปิดจองตั๋วรถทางไกล ล่วงหน้า 30 วัน ตั้งแต่ 10 มิ.ย.นี้

นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เปิดเผยว่า ร.ฟ.ท.คาดว่า ประชาชนมีความต้องการในการเดินทางมากขึ้น หลังจากที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. มีการผ่อนคลายการเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัด และให้ยานพาหนะ ผู้โดยสาร ตลอดจนผู้เกี่ยวข้องกับการขนส่งสาธารณะที่เป็นการขนส่งคนหรือสินค้าระหว่างจังหวัดที่เริ่มออกเดินทางจากจังหวัดต้นทาง ก่อนเวลา 23.00 น. และถึงจังหวัดปลายทางหลังเวลา 03.00 น.ของวันรุ่งขึ้น สามารถเดินทางข้ามเขตพื้นที่จังหวัดในช่วงเวลาห้ามออกนอกเคหะสถานได้ เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงตามหลักเกณฑ์ขององค์การอนามัยโลกและตามผลการประเมินสถานการณ์ของฝ่ายสาธารณะสุข

ดังนั้น เพื่ออำนวยความสะดวกการเดินทางของประชาชนที่มีความจำเป็นต้องเดินทางโดยรถไฟ ทั้งการเดินทางภายในเขตเมือง ระหว่างเมือง และทางไกล ข้ามเขตพื้นที่จังหวัด การรถไฟฯ จึงได้ประกาศเปิดเดินขบวนรถโดยสารทางไกล ขบวนรถชานเมือง ขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น (เพิ่มเติม) จำนวน 108 ขบวน เพื่อให้สอดคล้องตามมาตรการผ่อนคลายการเดินทาง ระยะที่ 3 เริ่มให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง สำหรับขบวนรถที่เปิดให้บริการในเส้นทางต่างๆ มีดังนี้


1. ขบวนรถโดยสารทางไกล เปิดให้บริการตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป จำนวน 20 ขบวน (ไป-กลับ) ดังนี้

1.1 สายเหนือ ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 2 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษ (ดีเซลราง) ที่ 7 และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 9 (กรุงเทพ-เชียงใหม่) ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 2 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษ (ดีเซลราง) ที่ 8 และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 10 (เชียงใหม่-กรุงเทพ)

1.2 สายตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 3 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 23 ขบวนรถด่วนพิเศษ(ดีเซลราง)ที่ 71 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 25 (กรุงเทพ-หนองคาย) ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 3 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 24 ขบวนรถด่วนพิเศษ(ดีเซลราง)ที่ 72 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี) และขบวนรถด่วนพิเศษที่ 26 (หนองคาย-กรุงเทพ)

1.3 สายใต้ ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 (เที่ยวไป) จำนวน 5 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 31 (กรุงเทพ-ชุมทางหาดใหญ่) ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 37 (กรุงเทพ-สุไหงโก-ลก) ขบวนรถด่วนพิเศษ (ดีเซลราง) ที่ 43 (กรุงเทพ-สุราษฎร์ธานี) ขบวนรถด่วนที่ 83 (กรุงเทพ-ตรัง) และขบวนรถเร็วที่ 175 (ชุมทางหาดใหญ่-สุไหงโก-ลก) (**ขบวนรถที่ 31 และ 37 งดให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารที่ชุมพร และสุราษฎร์ธานี เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว ขบวนที่ 83 งดให้บริการรับ-ส่งผู้โดยสารที่สถานีบางสะพานใหญ่ และชุมพร**)

ตั้งแต่วันที่ 12 มิถุนายน 2563 (เที่ยวกลับ) จำนวน 5 ขบวน ประกอบด้วย ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 32 (ชุมทางหาดใหญ่-กรุงเทพ) ขบวนรถด่วนพิเศษที่ 38 (สุไหงโก-ลก-กรุงเทพ) และขบวนรถด่วนพิเศษ(ดีเซลราง)ที่ 40 (สุราษฎร์ธานี-กรุงเทพ) ขบวนรถด่วนที่ 84 (ตรัง-กรุงเทพ) และขบวนรถเร็วที่ 176 (สุไหงโก-ลก-ชุมทางหาดใหญ่) (**ขบวนรถที่ 32 และ 38 งดให้บริการรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่ชุมพร และสุราษฎร์ธานี และขบวน 84 งดให้บริการรับ-ส่ง ผู้โดยสารที่ชุมพร และบางสะพานใหญ่ เนื่องจากยังอยู่ในช่วงเวลาเคอร์ฟิว**)

2. ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดา และขบวนรถท้องถิ่น ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง จำนวน 88 ขบวน (ไป-กลับ) ดังนี้


สายเหนือ ขบวนรถชานเมือง และขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 15 ขบวน
สายตะวันออกเฉียงเหนือ ขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 12 ขบวน
สายใต้ ขบวนรถธรรมดาและขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 18 ขบวน
สายตะวันออก ขบวนรถธรรมดา จำนวน 15 ขบวน
สายแม่กลอง-บ้านแหลม ขบวนรถท้องถิ่น จำนวน 6 ขบวน
สายวงเวียนใหญ่-มหาชัย ขบวนรถธรรมดา จำนวน 22 ขบวน

นอกจากนี้ ได้ขยายระยะเวลาให้บริการขบวนรถโดยสารพิเศษ ที่ 9051/9052 (กรุงเทพ-เชียงใหม่-กรุงเทพ) ขบวนรถโดยสารพิเศษ ที่ 9071/9072 (กรุงเทพ-อุบลราชธานี-กรุงเทพ) และขบวนรถโดยสารพิเศษ ที่ 9075/9076 (กรุงเทพ-หนองคาย-กรุงเทพ) ขยายเวลาให้บริการเพิ่มอีก 30 วัน (ตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน - 17 กรกฎาคม 2563) เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนเพิ่มเติม

ในด้านมาตรการป้องกันความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โคโรนา 2019 (โควิด-19) ได้ดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลและกระทรวงคมนาคมอย่างเคร่งครัด โดยให้พนักงานด้านปฏิบัติการที่เกี่ยวข้องจะต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และถุงมือยางและ Face shield ตลอดเวลาที่ให้บริการ การตรวจคัดกรองผู้โดยสารอย่างเข้มข้น การจัดให้มีแอลกอฮอล์เจลบริการอย่างเพียงพอและทั่วถึง ทั้งบริเวณสถานีและบนขบวนรถ การรักษาระยะห่าง Social Distancing ให้มีจุดยืน/นั่งให้ชัดเจน ทั้งที่สถานีและขบวนรถ โดยจำกัดการจำหน่ายตั๋วโดยสารไว้ที่ร้อยละ 50 ของจำนวนที่นั่งทั้งหมด เมื่อจำหน่ายเต็มตามที่ระบุแล้วจะไม่จำหน่ายตั๋วอีก รวมทั้งตั๋วไม่มีที่นั่ง (ตั๋วยืน) และการงดจำหน่ายอาหารบนขบวนรถ หากผู้โดยสารที่เดินทางไกลเกินกว่า 3 ชั่วโมง ให้เตรียมอาหารไปรับประทานเอง และจะดำเนินการติดตั้งแอปพลิเคชัน (application) “ไทยชนะ” ที่สถานีและบนขบวนรถ (เป็นรายตู้/โบกี้) เพื่อใช้ควบคุมการเข้าออกของผู้โดยสารที่มาใช้บริการผ่าน Check-in และ Check-out จากแอปพลิเคชันดังกล่าว


สำหรับผู้โดยสารที่ประสงค์จะเดินทางกับขบวนรถโดยสารทางไกล สามารถจองล่วงได้ 30 วัน ก่อนเดินทาง โดจะเริ่มเปิดจองตั้งแต่วันที่ 10 มิถุนายน 2563 เป็นต้นไป ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม รวมทั้งกำหนดเวลาต่างๆ ได้ที่ศูนย์บริการลูกค้าสัมพันธ์ หมายเลขโทรศัพท์ 1690 ตลอด 24 ชั่วโมง หรือสถานีรถไฟ หรือเฟซบุ๊ก แฟนเพจ ทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทย


กำลังโหลดความคิดเห็น