พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมของเหตุอาชญากรรม ในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน โดยจากสถิติภาพรวมตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 – 23 พฤษภาคม 2563 หลังประกาศ พ.ร.กฉุกเฉินฯ พบว่าเหตุอาชญากรรมลดลง เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยคดีการกระทำความผิดเกี่ยวกับชีวิตร่างกาย เพศ ลดลง 709 คดี ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ลดลง 54 คดี ความผิดพิเศษ ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ร.บ.ป่าไม้ คดีเกี่ยวกับเงินกู้ หนี้นอกระบบและคดีอื่นๆ ลดลง 986 คดี ขณะที่คดีความผิดต่อรัฐ ทั้งยาเสพติด อาวุธปืน และการพนันมีสถิติจับกุมเพิ่มขึ้น 25,697 คดี ซึ่งเป็นผลมาจากการตั้งด่านตรวจเคอร์ฟิว และการส่งสายตรวจไปตามแหล่งชุมชน
ทั้งนี้ จากสถิติจะเห็นได้ว่าการประกาศเคอร์ฟิว ปิดสถานบริการ ห้ามจำหน่ายสุรา ส่งผลให้คดีอาญากรรมลดลง รวมถึงอุบัติเหตุการจราจร เนื่องจากเมาแล้วขับ และเด็กแว้นลดลง เช่นเดียวกับคดีอาชญากรรมที่คนต้องเผชิญหน้าเนื่องจากคนออกจากบ้านน้อยลง แต่ในทางกลับกัน คดีที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น ในความผิดเกี่ยวกับคดีฉ้อโกงออนไลน์ หลอกขายสินค้า ตั้งแต่หน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ ขณะที่คดีความมั่นคงการชุมนุมไม่มีเลยเพราะชุมนุมไม่ได้
อย่างไรก็ตาม จากสถิติอาชญากรรมที่มีนัยสำคัญในช่วงประกาศใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้สั่งการให้ตำรวจเชื่อมโยงฐานข้อมูลคดีอาชญากรรมให้ครอบคลุมเข้าถึงสถานีตำรวจทั่วประเทศ และพัฒนาระบบฐานข้อมูลให้ตำรวจตรวจสอบได้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ขณะที่นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด โดยจะมีการนำข้อมูลไปปรับใช้มาตรการผ่อนปรนระยะที่ 3