ภาพ - ส่วนหนึ่งของข้าวสารที่ได้รับการสนับสนุนผ่านโครงการ‘เติมชีวิตด้วยการให้’
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ร่วมกับภาคส่วนต่างๆ เดินหน้าแผนตอบสนอง 90 วัน หวังช่วยลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มุ่งกลุ่มเป้าหมายเด็กยากไร้กว่า 60,000 คน ในครอบครัวคนไทย และกว่า 5,000 คน ในครอบครัวแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ 73 ชุมชน ครอบคลุม 42 จังหวัดทั่วประเทศ ได้ปลอดภัยและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติ พร้อมเชิญชวนผู้มีจิตรศรัทธาร่วมบริจากเพื่อสนับสนุนโครงการดังกล่าว
ดร.สราวุธ ราชศรีเมือง ผู้อำนวยการมูลนิธิศุภนิมิตแห่งประเทศไทย หรือ World Vision Thailand เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกและกลายเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสุขภาวะและสาธารณสุขระดับชาติ
มูลนิธิศุภนิมิตฯ ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณกุศลที่มุ่งเน้นการทำงานโดยมีเด็กเป็นหัวใจสำคัญ จึงได้จัดทำโครงการ “ตอบสนองภัยจากโรคอุบัติใหม่ โควิด-19” หรือ Thailand Covid-19 Response ภายใต้กรอบระยะการทำงาน 90 วัน ขึ้น โดยมุ่งเน้นไปที่การยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านการสร้างความรู้ความเข้าใจ รวมถึงวิธีการดูแลตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ วิธีการดำรงตนให้ปลอดภัยสำหรับเจ้าหน้าที่เมื่อต้องไปปฏิบัติงานตอบสนองต่อเด็กและครอบครัวในชุมชนต่างๆ หนุนเสริมการทำงานของภาครัฐ หน่วยงานสาธารณสุขในระดับท้องถิ่น เจ้าหน้าที่อาสาสมัคร ให้มีความพร้อมและมีปัจจัยที่จำเป็นที่จะปกป้องตนเองให้ปลอดภัยจากการติดเชื้อ รวมถึงเยียวยาและให้ความช่วยเหลือแก่เด็ก ครอบครัว ชุมชน ผู้คนที่อยู่ในภาวะเปราะบางยากไร้ และแรงงานต่างด้าว ในพื้นที่ดำเนินงานของมูลนิธิศุภนิมิตฯ รวมทั้งสิ้น 73 ชุมชน ใน 42 จังหวัด ที่ต้องเผชิญกับภาวะยากลำบากจากการต้องกักตัวเฝ้าระวังการติดเชื้อ ว่างงาน และขาดรายได้ ได้มีความปลอดภัยจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และสามารถกลับคืนสู่การมีชีวิตที่ปกติสุขได้โดยเร็ววัน
ภาพ- ใบปลิวการให้ความรู้ในการดูแลตัวเองจากไวรัสโควิด-19ได้รับการแปลเป็นภาษาเมียนมา เพื่อให้แรงงานต่างด้าวเกิดความเข้าใจมากยิ่งขึ้น
“มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ดำเนินการแผนตอบสนองเพื่อยับยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เมื่อเดือนมีนาคมและตลอดจนถึงปัจจุบน ซึ่งมีทั้งการตอบสนองโดยทีมตอบสนองภัยจากโรคอุบัติใหม่โควิด-19 ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ และการตอบสนองผ่านการบูรณาการพันธกิจปกติในโครงการอุปการะเด็ก และโครงการเติมเต็มชีวิตด้วยการให้ เพื่อช่วยเหลือเด็ก ครอบครัว และชุมชน ให้มีความปลอดภัยจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งปัจจุบันเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการในพื้นที่ของมูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังคงทำงานอย่างต่อเนื่องร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ โรงพยาบาล โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล เจ้าหน้าที่สาธารณสุข ผู้นำชุมชน อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมูบ้าน (อสม.) อาสาสมัครสาธารณสุขต่างด้าว (อสต.) เครือข่ายโรงเรียน และองค์กรภาคประชาสังคม ในเข้าไปให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรการเชิงป้องกันพร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ดูแลรักษาความสะอาดพื้นฐานส่วนบุคคล อาทิ หน้ากากอนามัย แอลกอฮอล์และสบู่เหลวสำหรับล้างมือ ครีมอาบน้ำ จัดหาข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อมอบให้แก่ครอบครัวของเด็กยากไร้ รวมถึงการส่งเสริมอาชีพและสนับสนุนให้มีแหล่งอาหารในครัวเรือนทดแทนการขาดรายได้”
ดร.สราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินงานแผนตอบสนองในครั้งนี้ มูลนิธิศุภนิมิตฯ ยังได้ทำงานร่วมกับองค์กรทั้งภาครัฐ เอกชน และองค์กรสาธารณประโยชน์ โดยร่วมกับ 138 องค์กร ในการรณรงค์และยุติความรุนแรงต่อเด็ก การปกป้องคุ้มครองเด็กในภาวะวิกฤตโควิด-19 ด้วยกลไกการปกป้องคุ้มครองเด็กอย่างเข้มแข็ง ร่วมกับองค์การอนามัยโลก (WHO) กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข และมูลนิธิรักษ์ไทย เปิดบริการสายด่วนโควิด 1422 เพื่อให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันตนเองจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แก่แรงงานต่างด้าว ร่วมกับ STARFISH LABZ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) พัฒนาสื่อดิจิทัลเพื่อส่งเสริมพฤติกรรมในการป้องกันการระบาดของไวรัสโควิด-19 และการดูแลเด็กในภาวะวิกฤตโควิด-19 ทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และอารมณ์ ร่วมกับ 16 องค์กรทั้งภาครัฐและเอกชน องค์กรภาคประชาชน จัดทำคู่มือแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาเพื่อป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และร่วมกับ 119 องค์กร ยื่นข้อเสนอต่อรัฐบาลในการปกป้องดูแลเด็กเล็กในสถานการณ์วิกฤตโควิด-19 ด้วยนโยบายเงินอุดหนุนเด็กเล็กถ้วนหน้า
ภาพ- เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการมูลนิธิศุภนิมิตฯลงพื้นที่ชุมชนแรงงานต่างด้าว เพื่อให้ความรู้ และแจกจ่ายอุปกรณ์ดูแลรักษาความสะอาดพื้นฐานส่วนบุคคล
ขณะเดียวกัน เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในระยะยาวในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้เปิดรับบริจาคทั้งในรูปแบบของเงิน อุปกรณ์ และสิ่งจำเป็นในการดูแลรักษาความสะอาดพื้นฐานส่วนบุคคล อาทิ หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์และสบู่เหลวสำหรับล้างมือ น้ำดื่ม ข้าวสาร และอาหารแห้ง เพื่อนำไปแจกจ่ายให้แก่เด็ก ครอบครัว และชุมชนยากไร้ รวมถึงแรงงานต่างด้าว ที่อยู่ในพื้นที่ดำเนินงานของมูลนิธิศุภนิมิตฯ รวมถึงการจัดเตรียมอุปกรณ์สำรองน้ำสะอาดสำหรับอุปโภคบริโภคเพื่อแก้ปัญหาน้ำแล้ง และชุดสื่อการเรียนรู้ที่บ้าน หากโรงเรียนยังไม่สามารถเปิดทำการเรียนการสอนได้ ซึ่งคาดว่าจากการดำเนินแผนตอบสนอง 90 วัน จะทำให้เด็กยากไร้กว่า 60,000 คน ที่อยู่ในครอบครัวคนไทย และเด็กกว่า 5,000 คน ในครอบครัวแรงงานต่างด้าว ได้ปลอดภัยและสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างปกติภายใต้ภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดต่อร่วมบริจาคและมอบสิ่งของเหล่านี้เพื่อช่วยเหลือเด็กๆ ผู้ยากไรในช่วงวิกฤตโควิด-19 ได้ที่ https://www.worldvision.or.th/campaign/covid/5753.html หรือติดต่อมูลนิธิศุภนิมิตฯ ได้ที่ โทร. 02 022 9200 ถึง 2 หรือส่งข้อความผ่านทาง LINE: @worldvi