กรมควบคุมโรค ชี้ ช่วงโควิดระบาด อุบัติเหตุทางถนนลดลง เจ็บตายน้อยลงเมื่อเทียบกับปี 62 ในเวลาเดียวกัน ตายลดลง 10% เจ็บลดลง 25% ลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 1.7 หมื่นล้านบาท แต่ห่วงผ่อนปรนมาตรการห้ามขายเหล้า เข้าหน้าฝน เด็กอาจกลับไปเรียนในเร็วๆ นี้ อาจทำอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น ย้ำคนขับ จยย. ใส่ทั้งหมวกกันน็อก และหน้ากากผ้า ปลอดภัยกำลัง 2
วันนี้ (26 พ.ค.) นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) แถลงข่าวเวทีเสวนาวิชาการ DDC Forum เรื่อง “อุบัติเหตุทางถนน ยุค New Normal” ว่า ปัญหาหนึ่งของไทยที่ไม่ด้อยไปกว่าโรคโควิด-19 คือ อุบัติเหตุทางถนน โดยช่วง ม.ค.- มี.ค. 2563 มีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนน 4,924 คน เฉลี่ย 55 คนต่อวัน บาดเจ็บ 277,141 คน โดยเจ็บหนักต้องนอนโรงพยาบาล 44,774 คน มีผู้พิการเกิดขึ้นอีกเกือบ 2,060 คน ซึ่งคิดจาก 4.6% ของผู้ป่วยที่ต้องนอน รพ. อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาดังกล่าวเป็นช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนลดลง โดยเฉพาะช่วงสงกรานต์ ที่พบผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตลดลงจำนวนมาก จากการประกาศ พ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน มีมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างจังหวัด จำกัดช่วงเวลาออกนอกเคหสถาน (เคอร์ฟิว) ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่ผ่านมา พบว่า ม.ค.- มี.ค. 63 มีผู้เสียชีวิตลดลง 595 คน หรือลดลง 10.78% จากปี 62 ที่เสียชีวิต 5,519 คน จำนวนผู้บาดเจ็บลดลง 94,626 คน หรือ 25.45% จากปี 62 ที่บาดเจ็บ 371,767 คน จึงช่วยลดความสูญเสียทางเศรษฐกิจ 1.7 หมื่นล้านบาท โดยปี 62 มีมูลค่าความสูญเสีย 7.7 หมื่นล้านบาท ปี 63 ประมาณ 5.9 หมื่นล้านบาท โดยเฉพาะ มี.ค.เดือนเดียว ที่ประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทำให้มีปริมาณการเดินทางลดลง การห้ามออกนอกเคหสถานช่วงเวลา 22.00-04.00 น. และมีการตั้งด่านความมั่นคง ส่งผลให้จำนวนผู้เสียชีวิตลดลง 201 คน คิดเป็น 10.85% เมื่อเทียบกับปี 62 ที่เสียชีวิตใน มี.ค. 1,853 คน และบาดเจ็บลดลง 64,885 คน หรือ 50.10% จากปี 62 บาดเจ็บ 129,498 คน
“แม้สถานการณ์ดูเหมือนจะดีขึ้น แต่ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนยังมีความรุนแรงสูง เพราะ ม.ค.- มี.ค. 63 ยังมีผู้เสียชีวิตเฉลี่ยวันละ 50-58 คน แต่ในหลายพื้นที่ต้องใช้ทรัพยากรไปกับการป้องกันโควิด ทำให้การทำงานป้องกันอุบัติเหตุมีข้อจำกัด และช่วง พ.ค. ที่มีการผ่อนปรนมาตรการ ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านกังวลสถานการณ์จะกลับมารุนแรงมากขึ้น เพราะบางมาตรการที่ช่วยลดแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส และลดอุบัติเหตุถูกผ่อนปรนด้วย เช่น การห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ยิ่งช่วงนี้เข้าฤดูฝน ทัศนวิสัยไม่ดี ถนนลื่น มีโอกาสเกิดอุบัติเหตุเพิ่มขึ้น และใกล้เปิดเทอม เด็กนักเรียนไปโรงเรียน การเดินทางโดยรถสาธารณะจะไม่เหมือนเดิม ต้องเว้นระยะห่าง ทำให้แต่ละเที่ยวบรรทุกผู้โดยสารได้น้อยลง อาจเป็นแรงส่งให้มองหาพาหนะมาใช้เองเพื่อความสะดวกคล่องตัว ทำให้หันมาใช้รถจักรยานยนต์และรถยนต์เพิ่มมากขึ้น ปัญหาอุบัติเหตุอาจเข้าสู่จุดวิกฤต ทำให้บาดเจ็บและเสียชีวิตก่อนวัยอันควรเพิ่มขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้จำนวนอุบัติเหตุสูงขึ้นได้
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า นอกจากนี้ อีกมาตรการที่ คร.แนะนำประชาชนในการป้องกันโควิด โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้รถจักรยานยนต์ คือ สวมหมวกนิรภัยควบคู่กับการใส่หน้ากากผ้า หรือหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ที่ใช้รถจักรยานยนต์ เพราะหมวกนิรภัยที่มีกระจกป้องกันลม กระจกป้องกันลมดังกล่าวจะทำหน้าที่เป็นหน้ากากพลาสติกคลุมหน้าคล้าย face shield นอกจากจะป้องกันอุบัติเหตุเป็นหลักแล้ว ยังสามารถป้องกันเชื้อโควิดจากคนรอบข้างได้ ถือว่าสร้างความปลอดภัยยกกำลัง 2 และหลังสวมหมวกนิรภัยทั้งตัวผู้ขับขี่และคนซ้อนท้าย ควรมีการเช็ดทำความสะอาดหมวกนิรภัยด้วยแอลกอฮอล์ หรือเช็ดด้วยน้ำสบู่/น้ำยาล้างมือ นำไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรค