นายนิวัติไชย เกษมมงคล รองเลขาธิการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงข่าวว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช.ได้พิจารณาเรื่องกล่าวหานายเชษฐา ปทุมรังสี เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกเทศมนตรีตำบลท่าหลวง อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ไม่เป็นไปตามแบบ เป็นเหตุให้สะพานพังถล่ม มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ จากการดำเนินการก่อสร้างสะพานสมโภชน์กรุงรัตนโกสินทร์ 200 ปี เมื่อปี 2553
โดยนายวรพจน์ นุชิต วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ เป็นผู้รับผิดชอบในการตรวจสอบรับรองแบบแปลน แต่พบว่าในการก่อสร้างมีการใช้เชือกลวดเหล็กกล้าแทนลวดเหล็กตีเกลียว ตามรายการที่กำหนดแนบท้ายในสัญญา และมีการปลอมผลทดสอบแรงดึงชิ้นส่วนเหล็กของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งมาใช้รับรองวัสดุก่อสร้าง เมื่อก่อสร้างสะพานแล้วเสร็จผ่านไป 5 เดือน สะพานดังกล่าวได้พังถล่มลงมาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของนายวรพจน์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงาน เข้ามีส่วนได้เสียเพื่อประโยชน์สำหรับตนเองหรือผู้อื่น ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 152 มาตรา 157 และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานซึ่งเป็นผู้ควบคุมงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ประกอบมาตรา 86 และตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 ประกอบมาตรา 86 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ส่วนนายอนุวัติ วิชัยโย และนายสันติธรรม สีนวนสกุลณี ในฐานะผู้ควบคุมงาน มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 และ 162 และตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 123/1 และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ขณะที่คณะกรรมการดำเนินการประมูลจ้างด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Auction) และคณะกรรมการตรวจการจ้าง มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง
ส่วนนายเชษฐา ปทุมรังสี มีมูลความผิดเป็นการกระทำที่ฝ่าฝืนต่อความสงบเรียบร้อยหรือสวัสดิภาพของประชาชน ละเลยไม่ปฏิบัติตามหรือปฏิบัติการไม่ชอบด้วยอำนาจหน้าที่ มีความประพฤติในทางจะนำมาซึ่งความเสื่อมเสียแก่ศักดิ์ตำแหน่ง หรือแก่เทศบาลหรือแก่ราชการ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 มาตรา 73