เลขาฯ องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน ไล่บี้ต่อจับตา ผู้ว่าฯ ลำพูน สอบปม อบจ.จัดซื้อของใช้คนชราป้องกันโควิด ชี้ เป็นบทพิสูจน์มติ ครม.- แผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันปราบคอร์รัปชัน ศักดิ์สิทธิ์หรือไม่
วันนี้ (24 เม.ย.) นานมานะ นิมิตรมงคล เลขาธิการองค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวเรื่อง เผือกร้อนในมือผู้ว่าฯ ลำพูน กับการเอาจริงตามแผนปฏิรูปประเทศฯ โดยระบุว่า
“เรื่องอื้อฉาวในการจัดซื้อชุดของใช้ประจำวันคนชราป้องกันการแพร่เชื้อโควิด-19 มูลค่า 16.3 ล้านบาท ของ อบจ.ลำพูน ที่ขณะนี้ทั้ง ป.ป.ช. สตง. และ ผู้ว่าราชการจังหวัดไ ด้สั่งให้มีการสอบสวนแล้ว
น่าสนใจว่า กรณีนี้ ผู้ว่าฯ ลำพูน ต้องดำเนินการสอบสวนให้เสร็จภายใน 7 วัน แล้วรายงานให้ผู้บังคับบัญชารับทราบ หากพบว่ามีความผิดก็ให้ดำเนินการทางวินัยและอาญาโดยเร็วภายใน 30 วัน ถึงแม้การสอบสวนยังไม่ชัดเจน แต่มีเหตุน่าเชื่อถือ ก็ให้ปรับย้ายผู้ถูกกล่าวหานั้นไปตำแหน่งอื่นชั่วคราว เพื่อประโยชน์ในการสอบสวน
ที่กล่าวมาเป็นแนวปฏิบัติโดยสังเขปของ “มาตรการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในระบบราชการ” ตามมติ ครม. ที่ คสช. ใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญในขณะนั้นเสนอต่อรัฐบาลเมื่อ 27 มีนาคม 2561 และแนวทางนี้ยังเป็นส่วนหนึ่งของ “แผนปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามคอร์รัปชัน” ด้วย
ดังนั้น นับจากวันที่ท่านผู้ว่าฯ ทราบเรื่อง หรือตั้งกรรมการสอบสวน เท่ากับเป็นการเริ่มนับวันที่หนึ่งของกระบวนการตามมาตรการนี้
แต่ผู้เขียนไม่เคยพบว่ามีการใช้มาตรการนี้กับกรณีทุจริตใดมาก่อน ดังนั้น หากท่านผู้ว่าฯ ไม่สามารถปฏิบัติได้ จะถือว่าบกพร่องต่อหน้าที่หรือมีความผิดทางวินัยหรืออาญาประการใดหรือไม่ เป็นเรื่องที่ประชาชนควรติดตามต่อไป เพราะนั่นหมายถึงการพิสูจน์ให้คนทั้งประเทศเห็นว่า “มติ ครม. และแผนปฏิรูปประเทศ” มีความศักดิ์สิทธิ์และความจริงจังที่ทุกคนต้องถือปฏิบัติเพียงใด”
#โกงในช่วงโควิด-19 คือ โกงชีวิตคนทั้งชาติ : จับให้ได้ จับให้เร็ว ลงโทษให้สาสม