น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีตสมาชิกวุฒิสภา ว่าที่ผู้สมัครผู้ว่า กทม. โพสต์เฟซบุ๊ก รสนา โตสิตระกูล ระบุว่า ในระหว่างที่ประชาชนทั่วประเทศอยู่ในห้วงเวลาแห่งความทุกข์จากการระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบต่อชีวิต และส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจอย่างร้ายแรงในระดับที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แต่ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล กลับฉวยโอกาสในช่วงวิกฤต เสนอให้คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบในการเข้าร่วมความตกลงการค้าเสรี CPTPP ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญา UPOV1991 อนุสัญญานี้ ทำให้ประเทศไทยต้องแก้ไขกฎหมายภายใน โดยต้องขยายสิทธิผูกขาดให้แก่บรรษัทเมล็ดพันธุ์ ห้ามเกษตรกรเก็บพันธุ์พืชไปปลูกต่อ ขยายสิทธิผูกขาดจากส่วนขยายพันธุ์ออกไปรวมถึงผลผลิตและผลิตภัณฑ์ ขยายระยะเวลาการผูกขาดจากที่กำหนดไว้ส่วนใหญ่ 12 ปี เป็น 20 ปี รวมทั้งลดทอนกลไกการเข้าถึงและแบ่งปันผลประโยชน์จากทรัพยากรชีวภาพ จนถูกเรียกว่า "อนุสัญญาโจรสลัดชีวภาพ" การยอมรับ UPOV1991 จะทำให้ราคาเมล็ดพันธุ์ที่เกษตรกรต้องจ่ายแพงขึ้น 3-5 เท่า และจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหารของประเทศอย่างร้ายแรง เอื้ออำนวยประโยชน์แก่บรรษัทยักษ์ใหญ่ด้านเกษตรและอาหาร และบรรษัทเมล็ดพันธุ์ข้ามชาติ ซึ่งมีอิทธิพลเหนือตลาดอยู่แล้วให้ผูกขาดมากยิ่งขึ้นไปอีก การเก็บรักษาพันธุ์พืชเพื่อปลูกต่อ และแลกเปลี่ยนระหว่างเกษตรกร คือวิถีชีวิต และฐานรากของการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญของความมั่นคงและอธิปไตยทางอาหารของประชาชนและประเทศชาติ เราขอเรียกร้องให้คณะรัฐมนตรี ปฏิเสธข้อเสนอของทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ซึ่งเตรียมการเสนอให้ประเทศไทยเข้าร่วม CPTPP ในวันอังคารที่ 28 เมษายน 2563 นี้ การระบาดของโรคร้ายในครั้งนี้ ทำให้โลกเห็นถึงปัญหาและข้อจำกัดของโลกาภิวัตน์ทางการค้า และหลายประเทศต่างตระหนักถึงความมั่นคงและการพึ่งพาตนเองทางอาหาร
ประเทศไทยต้องไม่ยอมให้คนกลุ่มใดทำลายฐานรากของความมั่นคงทางอาหาร ด้วยการเข้าร่วมความตกลงที่จะทำให้การเก็บรักษาพันธุ์พืชไปปลูกต่อกลายเป็นอาชญากรรม ร่วมกันหยุดอนุสัญญา UPOV1991 โดยการแชร์ข่าวสารนี้ จับตาผลการประชุมของคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ 28 เมษายนและร่วมกันคัดค้าน CPTPP จนถึงที่สุด