นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและแก้ปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของศาลปกครอง ลงนามประกาศคำแนะนำประธานศาลปกครองสูงสุด เรื่องแนวทางการดำเนินกระบวนพิจารณาคดี เพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และลดผลกระทบต่อคู่กรณี ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เพื่อให้ศาลปกครองทั่วประเทศพิจารณาเป็นแนวทางบริหารจัดการคดี ในช่วงสถานการณ์นี้ 7 ข้อ ประกอบด้วย
1. ให้ตุลาการศาลปกครองสามารถใช้ดุลพินิจตรวจรับคำฟ้อง ที่ยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดี กรณีคำฟ้องใหม่ที่ยื่นไว้แล้ว ช่วงคาบเกี่ยวการเกิดสถานการณ์เชื้อไวรัสโควิด-19 ได้ 2. ให้ตุลาการเจ้าของสำนวนสามารถพิจารณาขยายระยะเวลาที่กำหนดให้คู่กรณีทำคำให้การ คำคัดค้านคำให้การ คำให้การเพิ่มเติม คำแถลงหรือคำชี้แจง จากผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด และหากตุลาการเจ้าของสำนวนไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้ประธานศาลปกครองสูงสุด หรืออธิบดีศาลปกครองชั้นต้น พิจารณาร่วมกับตุลาการที่รับผิดชอบสำนวน มีคำสั่งเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลา การอนุญาตขยายระยะเวลา
3. กรณีที่ศาลจะพิจารณากำหนดวันนัดในช่วงเวลาสถานการณ์การแพร่ระบาด ตุลาการศาลปกครองอาจใช้ดุลพินิจกำหนดวัน-เวลาใหม่ได้ หรือพิจารณากำหนดวันนัด ที่คำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในคดี การเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายของคู่กรณี และผลกระทบที่คู่กรณีจะได้รับจากการเดินทางมาที่ทำการศาล เพื่อร่วมกระบวนพิจารณา 4. ให้ตุลาการศาลปกครองใช้ดุลพินิจพิจารณากำหนดระยะเวลา มีคำสั่งขยายเวลา โดยคำนึงถึงอุปสรรค ข้อขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นกับคู่กรณีในการปฏิบัติช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด
5. การสั่งบังคับคดี ให้ตุลาการศาลปกครองใช้ดุลพินิจกำหนดวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง เพื่อให้การบังคับคดีเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว หรือให้ไต่สวนแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีที่ไม่ได้มีการปฏิบัติตามคำบังคับให้ถูกต้องครบถ้วนหรือปฏิบัติราชการสมควร 6. สำนักงานศาลปกครองจัดให้มีการแนะนำคู่กรณี และประชาชน ทราบถึงช่องทางการติดต่อกับศาลผ่านระบบออนไลน์ ลดภาระการเดินทางมายังที่ทำการศาลปกครอง และ 7.ให้สำนักงานศาลปกครองกำหนดมาตรการให้มีการจัดทำหมายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้มีการส่งหมายไปยังคู่กรณีผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ลักษณะที่ชัดเจน ครบถ้วน ถูกต้อง และรวดเร็ว