xs
xsm
sm
md
lg

ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ออกคำแนะนำ 7 ข้อเลี่ยงผลกระทบคดี ช่วงโควิด-19

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.ศาลปกครองสูงสุด ออกคำแนะนำตุลาการฯ 7 ข้อ พิจารณาคดีช่วงโควิด ให้ขยายเวลายื่นคำให้การได้ตามสมควร-ความเร่งด่วนในคดี หนุนใช้สื่อออนไลน์/คอนเฟอเรนซ์ ลดภาระการมาศาล

วันนี้ (2 เม.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปิยะ ปะตังทา ประธานศาลปกครองสูงสุด และประธานคณะกรรมการอำนวยการป้องกันและแก้ปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 (COVID-19) ของศาลปกครอง ได้ลงนามประกาศ “คำแนะนำประธานศาลปกครองสูงสุด เรื่อง แนวทางการดำเนินกระบวนพิจารณาคดีเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม และลดผลกระทบต่อคู่กรณีในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19” เพื่อให้ศาลปกครองทั่วประเทศ พิจารณาเป็นแนวทางบริหารจัดการคดี ในช่วงสถานการณ์นี้ ซึ่งจะต้องอำนวยความยุติธรรมให้ประชาชนและหน่วยงานที่มีคดีในศาลอย่างเป็นธรรม, สะดวก ลดภาระการเดินทางมาศาลเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของโรคช่วงที่มีการเดินทาง และลดผลกระทบต่อการใช้สิทธิและการปฏิบัติตามคำสั่งศาลภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส

โดยประกาศคำแนะนำดังกล่าวมีเนื้อหา 7 ข้อ คือ 1. การตรวจคำฟ้อง ที่ยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาการฟ้องคดี กรณีคำฟ้องใหม่ที่ยื่นไว้แล้วช่วงคาบเกี่ยวการเกิดสถานการณ์เชื้อไวรัส COVID-19/คำฟ้องที่ยื่นในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาด การใช้ดุลพินิจตรวจคำฟ้องให้คำนึงถึงอุปสรรค หรือข้อขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นกับผู้ฟ้องในการยื่นคำฟ้องที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์ระบาดของโรค โดยตุลาการศาลปกครองใช้ดุลพินิจตามที่เห็นเป็นการยุติธรรม รับคำฟ้องที่ยื่นเมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาฟ้องคดีไว้พิจารณาได้ ด้วยเหตุผลที่ว่าเป็นการยื่นฟ้องโดยมีเหตุจำเป็นอื่น ตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 มาตรา 52 วรรคสอง

2. ระยะเวลาที่กำหนดให้คู่กรณีทำคำให้การ/คำคัดค้านคำให้การ/คำให้การเพิ่มเติม/คำแถลงหรือคำชี้แจง กรณีหากเวลาที่ศาลกำหนดให้ยื่นนั้นครบกำหนดในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค โดยคู่ความยังไม่สามารถดำเนินการยื่นได้ตามคำสั่ง ก็ให้พิจารณาดำเนินการอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ กำหนดระยะเวลาดำเนินการต่างๆ ใหม่ โดยไม่ต้องรอให้คู่กรณีร้องขอขยายระยะเวลา หรือเมื่อคู่กรณีร้องขอก็ให้มีคำสั่งอนุญาตขยายเวลาได้ โดยใช้วิธีแจ้งให้คู่ความทราบทางรูปแบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์/สื่อดิจิทัล ตามระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยวิธีพิจารณาคดีปกครองทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. 2562 หรือ กรณีที่ตุลาการศาลปกครองไม่อาจปฏิบัติหน้าที่พิจารณาสั่งเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลา/การสั่งอนุญาตขยายเวลาที่เป็นผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด ให้ประธานศาลปกครองสูงสุด หรืออธิบดีศาลปกครองชั้นต้น ใช้อำาจตามระเบียบ ก.ศป.ว่าด้วยอำนาจหน้าที่ประธานศาลปกครองสูงสุดและอธิบดีศาลปกครองชั้นต้นและการบริหารงานศาลปกครอง พ.ศ. 2544 ข้อ 6(1), 7(1) กรณีที่มีเหตุสุดวิสัยหรือเหตุจำเป็นอื่นที่มิอาจก้าวล่วงได้ทำให้ตุลาการศาลปกครองในองค์คณะนั้นไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ก็ให้พิจารณาร่วมกับตุลาการที่รับผิดชอบสำนวน มีคำสั่งเกี่ยวกับการกำหนดระยะเวลา/การอนุญาตขยายระยะเวลา กรณีหากศาลจะพิจารณามีคำสั่งให้ดำเนินการต่างๆ โดยระยะเวลาปกติที่คู่กรณีต้องปฏิบัติ อยู่ในช่วงเวลาของสถานการณ์แพร่ระบาดของโรค ให้ตุลาการศาลปกครองในสำนวนคดีที่รับผิดชอบอยู่ ใช้ดุลพินิจกำหนดระยะเวลาที่คู่กรณีต้องปฏิบัติได้ตามที่เห็นสมควรโดยคำนึงถึงอุปสรรค/ข้อขัดข้องที่อาจเกิดกับคู่กรณีในการปฏิบัติช่วงเวลาแพร่ระบาด

3. การกำหนดวันนั่งพิจารณาคดี/วันนัดไต่สวน/วันนัดประชุมไกล่เกลี่ยข้อพิพาท/วัน นัดฟังคำพิพากษา/การดำเนินกระบวนพิจารณาอื่นใดที่ต้องกระทำต่อหน้าศาล หากกำหนดนัดไว้แล้วและจะถึงกำหนดในช่วงสถานการณ์ระบาด หรือกรณีที่ศาลจะพิจารณากำหนดวันนัดในช่วงเวลาสถานการณ์การแพร่ระบาด ตุลาการศาลปกครองอาจใช้ดุลพินิจกำหนดวัน-เวลาใหม่ได้ หรือพิจารณากำหนดวันนัดที่คำนึงถึงความจำเป็นเร่งด่วนในคดี/การเยียวยาความเดือดร้อนเสียหายของคู่กรณี/ผลกระทบที่คู่กรณีจะได้รับจากการเดินทางมาที่ทำการศาลเพื่อร่วมกระบวนพิจารณา โดยให้ศาลสนับสนุนคู่ความเข้าร่วมกระบวนพิจารณาตามวิธีการที่คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและแก้ปัญหาผลกระทบจากการแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัส COVID-19 ของศาลปกครอง กำหนดไว้ในประกาศฯ ฉบับที่ 1/2563 ลงวันที่ 19 มี.ค. 63 เรื่องมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบต่อคู่กรณี ประชาชน หน่วยงานทางปกครอง และเจ้าที่ของรัฐจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ข้อ 1.3 (ที่ให้ดำเนินกระบวนพิจารณาคดี โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือระบบการประชุมทางจอภาพได้ ณ ที่ทำการศาลปกครองทุกแห่งทั่วประเทศ และการใช้ Application หรือ platform อื่นๆ เช่น LINE, Facebook เป็นต้น) เพื่อลดภาระการเดินทางมายังที่ทำการศาลของคู่กรณี

4. ระยะเวลาที่กำหนดให้คู่กรณีปฏิบัติิ หรืออาจมีผลกระทบต่อสิทธิหน้าที่ของคู่กรณีในกระบวนพิจารณา ตามบทบัญญัติิระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ภาค 2 นั้น ให้ตุลาการศาลปกครอง ใช้ดุลพินิจพิจารณากำหนดระยะเวลา/มีคำสั่งขยายเวลา โดยคำนึงถึงอุปสรรค/ข้อขัดข้องที่อาจเกิดขึ้นกับคู่กรณีในการปฏิบัติช่วงที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์แพร่ระบาด

5. การบังคับคดี กรณีที่ระยะเวลาการปฏิบัติตามคำบังคับของศาลจะครบกำหนดในช่วงคาบเกี่ยวกับการเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาด/ในช่วงที่มีสถานการณ์การระบาด และเป็นกรณีที่ปรากฏความต่อศาลว่ายังไม่ได้มีการปฏิบัติตามคำบังคับของศาล ให้ตุลาการศาลปกครองใช้ดุลพินิจปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครองฯ มาตรา 75/3, 75/4 (ที่ให้อำนาจพิจารณา/ไต่สวน/มีคำสั่งกำหนดวิธีการดำเนินการให้เป็นไปตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง หรือมีคำสั่งใดๆ เพื่อให้การบังคับคดีเสร็จสิ้นไปโดยเร็ว หรือให้ศาลปกครองไต่สวน หรือแสวงหาข้อเท็จจริงกรณีที่ไม่ได้มีการปฏิบัติตามคำบังคับให้ถูกต้องครบถ้วนหรือปฏิบัติราชการสมควร โดยสามารถมีคำสั่งให้ผู้ที่ไม่ปฏิบัติตามคำบังคับนั้นชำระค่าปรับต่อศาลตามจำนวนที่สมควรครั้งละไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งหากเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐอาจแจ้งผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่หรือลงโทษทางวินัยต่อไปก็ได้) ประกอบบทบัญญัติิระเบียบของที่ประชุมใหญ่ตุลาการในศาลปกครองสูงสุดว่าด้วยพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2543 ภาค 4 การบังคับคดีตามคำพิพากษาหรือคำสั่ง (เช่น การแจ้งให้หน่วยงานทางปกครอง เจ้าหน้าที่ของรัฐ พยานผู้เชี่ยวชาญ หรือคู่กรณี ชี้แจงข้อเท็จจริง/แสดงความเห็นเกี่ยวกับการบังคับคดี)

6. การแนะนำ/ช่วยเหลือคู่กรณี-ประชาชนให้ใช้ช่องทางติดต่อกับศาลโดยลดภาระการเดินทางมายังที่ทำการศาลปกครอง ด้วยการให้สำนักงานศาลปกครองจัดให้มีการแนะนำคู่กรณี/ประชาชน ทราบถึงช่องทางการติดต่อกับศาล (เช่น การยื่นฟ้อง ยื่นคำให้การ ผ่านระบบทางอิเล็กทรอนิกส์/ไปรษณีย์ลงทะเบียน/แฟกซ์, การดำเนินกระบวน พิจารณาคดีผ่านระบบการประชุมทางจอภาพ หรือ Video Conference, การใช้ LINE, Facebook เป็นต้น)

7. หมายศาล ให้สำนักงานศาลปกครอง กำหนดมาตรการให้มีการจัดทำหมายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ และให้มีการส่งหมายไปยังคู่กรณีผ่านช่องทางการสื่อสารต่างๆ ลักษณะที่ชัดเจน ครบถ้วนถูกต้องและรวดเร็ว รวมทั้งให้กำหนดวิธีการรายงานการส่งหมาย ให้ศาลทราบด้วยช่องทางสื่อสารต่างๆ ที่มีประสิทธิภาพและเหมาะสม แทนการรายงาน ด้วยกระดาษได้


กำลังโหลดความคิดเห็น