น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า กล่าวถึงสถานการณ์การค้าระหว่างประเทศของไทย ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 พบว่า มีมูลค่า 20,642 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถือว่าทรงตัวได้ดี อยู่ในอัตราสูงกว่าค่าเฉลี่ย 5 ปีย้อนหลัง เดือนละ 29,871 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่เป็นการหดตัวที่ร้อยละ 4.47 จากราคาน้ำมันที่ลดลง และฐานสูงจากการส่งออกอาวุธในการซ้อมรบจากช่วงเดียวกันของปีก่อน หากหักปัจจัยชั่วคราวจากการส่งออกทองคำ น้ำมัน และอาวุธ การส่งออก จะขยายตัวที่ร้อยละ 1.51 ส่งผลให้ภาพรวม 2 เดือนแรกของปีนี้ มีมูลค่าการส่งออกรวม 40,267 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ยังหดตัวร้อยละ 0.81
ส่วนการนำเข้าในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 มีมูลค่า 16,744 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หดตัวร้อยละ 4.30 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ถือว่าน่ากังวล เพราะการนำเข้าสินค้าทุน พวกเครื่องจักรต่างๆ ที่จะมีผลต่อการผลิตเพื่อส่งออก หดตัวถึงร้อยละ 9 ถือว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญ จึงต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมถือว่าไทยทำได้ดีกว่าประเทศอื่นๆ แม้จะมีปัจจัยจากโควิด-19 ที่กระทบจากระบบขนส่ง โดยเฉพาะส่งออกไปจีน ในสินค้าเกษตรและอาหารบางตัว เพราะคนไม่ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านไปซื้อของ รวมถึงตลาดญี่ปุ่น หดตัวร้อยละ 11.1 แต่ไทยสามารถกระจายตลาดได้ดี ขยายตัวทั้งในยุโรป และตลาดตะวันออกกลาง โดยไทยยังมีจุดแข็งในความหลากหลายของสินค้า และมีการส่งอกสินค้าจำเป็นเพื่อการดำรงชีพ เช่น ไก่สดแช่แข็ง อาหารทะเล ผักผลไม้ เฟอร์นิเจอร์ และเครื่องนุ่งห่ม ขยายตัวได้ดี และเชื่อว่าตลอดทั้งปี สินค้าเหล่านี้จะมีความต้องการสูงขึ้นแน่นอน และจะกลับมาขยายตัวดีขึ้นแบบชัดเจนในไตรมาสที่ 2 จากสถานการณ์โควิด-19 ที่เริ่มดีขึ้นในภูมิภาคเอเชีย แต่ยังต้องติดตามการระบาดที่กระจายไปภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะในยุโรป แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีปัญหาลอจิสติกส์แต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม แม้จะไม่มีการตั้งเป้าหมายการส่งออกของปีนี้ แต่ในช่วงที่เหลือ หากสามารถผลักดันมูลค่าการส่งออกได้เฉลี่ยเดือนละ 20,598 ล้านเหรียญสหรัฐ ภาพรวมการส่งออกตลอดทั้งปีจะเป็นบวกได้ และหากเฉลี่ยเกินเดือนละ 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ มีโอกาสที่การส่งออกจะขยายตัวได้ร้อยละ 2 เนื่องจากสินค้าไทยจำนวนมากเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เพราะสินค้าไทยมีคุณภาพที่ดี ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อปัญหาโรคโควิด-19 สามารถควบคุมได้ ภาวะตลาดโลกจะกลับมาดีขึ้น ที่คาดว่าโอกาสในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ภาคการส่งออกของไทยจะส่งออกได้เพิ่มมากขึ้นได้แน่นอน