xs
xsm
sm
md
lg

ไทยขึ้นแท่นส่งออกอาหารสัตว์เบอร์ 4 ของโลกแล้ว กรมเจรจาฯ เผยเอฟทีเอมีส่วนช่วยอย่างมาก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศเผยไทยเป็นผู้ส่งออก “อาหารสัตว์เลี้ยง” รายใหญ่อันดับ 4 ของโลกแล้ว มียอดส่งออกปี 62 รวม 1,693 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% เป็นการส่งออกไปคู่เจรจาเอฟทีเอ 954 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือสัดส่วน 56% เหตุเอฟทีเอช่วยขจัดภาษี ล่าสุด 15 ประเทศไม่เก็บภาษีจากไทยแล้ว เหลือแค่ 3 ประเทศที่ยังเก็บอยู่บางรายการ แนะคุมมาตรฐาน ผลิตอาหารสัตว์ที่ตลาดต้องการ

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ติดตามผลการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงในปี 2562 ที่ผ่านมา พบว่ามีมูลค่าสูงถึง 1,693 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 4% และในจำนวนนี้เป็นการส่งออกไปยังประเทศที่มีการทำเอฟทีเอกับไทย 18 ประเทศ เป็นมูลค่า 954 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนกว่า 56% ของการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยไปทั่วโลก โดยเป็นอาหารสำหรับสุนัขและแมว สัดส่วน 82% และอาหารสัตว์เลี้ยงอื่นๆ สัดส่วน 18% และมีประเทศคู่ค้าสำคัญ 5 อันดับแรก ทั้งที่ทำเอฟทีเอกับไทยและยังไม่มีเอฟทีเอ ได้แก่ อาเซียน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย และยังส่งผลให้ไทยก้าวขึ้นมาเป็นผู้ส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงอันดับที่ 4 ของโลกแล้ว รองจากสหภาพยุโรป สหรัฐฯ และจีน

“เอฟทีเอถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทย เพราะช่วยขจัดอุปสรรคด้านภาษีศุลกากรในประเทศคู่ค้า ทำให้ได้แต้มต่อในการแข่งขัน โดยปัจจุบันสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยทุกรายการไม่ถูกเก็บภาษีนำเข้าใน 15 ประเทศที่ไทยมีเอฟทีเอด้วย ได้แก่ ประเทศสมาชิกอาเซียน จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ชิลี เปรู และฮ่องกง มีเพียงญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และอินเดีย ที่ยังคงการเก็บภาษีนำเข้าจากไทยในบางรายการสินค้า”

ส่วนปัจจัยอื่นๆ ที่ช่วยสนับสนุนการเติบโตของสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงไทย มาจากจำนวนสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้น คุณภาพการผลิตของไทยที่มีมาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก การเข้ามาลงทุนตั้งโรงงานผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงในไทยของบริษัทผู้ผลิตต่างชาติ เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบมูลค่าการส่งออกสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงตั้งแต่ปี 2535 ซึ่งเป็นปีก่อนที่ความตกลงเอฟทีเอฉบับแรกของไทยกับอาเซียนจะมีผลบังคับใช้จนถึงปี 2562 รวมระยะเวลากว่า 27 ปี พบว่า มูลค่าการส่งออกเพิ่มขึ้นถึง 828% การส่งออกกับคู่เอฟทีเอขยายตัวเพิ่มขึ้นทุกตลาด โดยอาเซียนขยายตัวสูงสุด 6,306% รองลงมาได้แก่ จีน ขยายตัว 3,969% เกาหลีใต้ ขยายตัว 650% อินเดีย ขยายตัว 573% นิวซีแลนด์ ขยายตัว 531% และออสเตรเลีย ขยายตัว 244% เป็นต้น

ทั้งนี้ เพื่อให้สินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงจากไทยครองใจผู้บริโภคในตลาดโลก ผู้ผลิตและผู้ส่งออกอาหารสัตว์ของไทยควรรักษามาตรฐานสินค้าให้สอดคล้องกับหลักการสากลด้านสุขอนามัย และปฏิบัติตามกฎระเบียบการนำเข้าอย่างเคร่งครัด รวมทั้งต้องศึกษาแนวโน้มตลาดให้ดี เพราะปัจจุบันเจ้าของสัตว์เลี้ยงใส่ใจสุขภาพสัตว์เลี้ยงรวมถึงอาหารที่ให้สัตว์เลี้ยงบริโภค อาหารสัตว์เลี้ยงจึงควรเป็นอาหารคุณภาพดี มีประโยชน์ และช่วยดูแลสุขภาพให้แก่สัตว์เลี้ยง มีความหลากหลายในชนิดของอาหาร เช่น อาหารปลอดสารพิษ อาหารแคลอรีต่ำ อาหารมีส่วนผสมทั้งเนื้อสัตว์และผัก ตลอดจนอาหารสำหรับสัตว์ที่เจ็บป่วย


กำลังโหลดความคิดเห็น