xs
xsm
sm
md
lg

"ศรีสุวรรณ"ยื่น กก.สิ่งแวดล้อมฯ ค้าน EHIA ขยาย ทสภ.เฟส 2 ผิดกฎหมาย

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เมื่อเวลา 10.30 น. นายศรีสุวรรณ จรรยา นายกสมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อน และแกนนำชาวบ้านบริเวณโดยรอบสนามบินสุวรรณภูมิ เดินทางไปยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อขอให้คณะกรรมการฯ ระงับหรือเพิกถอนรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ซึ่งเพิ่งผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการผู้ชำนาญการฯ (คชก.) ไปเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

ทั้งนี้ การให้ความเห็นชอบรายงานของ คชก. ไม่น่าจะชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากโครงการขยายสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 2 เป็นโครงการที่ต่อเนื่องมาจากโครงการก่อสร้างสนามบินสุวรรณภูมิเฟส 1 ซึ่งตามหลักการแล้วจะต้องปฏิบัติตามเงื่อนไข และมาตรการที่กำหนดไว้ในรายงาน EIA ฉบับแรกให้หมดสิ้นเสียก่อน แต่ทว่า คชก.กลับเพิกเฉยต่อการบังคับให้ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เจ้าของโครงการฯ ต้องปฏิบัติ จนก่อให้เกิดผลกระทบทางเสียงมาอย่างยาวนานกว่า 10 ปีที่ผ่าน ทำให้ประชาชนยังได้รับความเดือดร้อน และเสียหายอย่างมากจากการประกอบการของสนามบินตั้งแต่วันที่เปิดทำการมาจนถึงปัจจุบัน โดยที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาที่เหมาะสม ตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 58 วรรคสาม บัญญัติไว้แต่อย่างใด

กรณีที่เกิดขึ้นตัวแทนของประชาชนที่เดือดร้อนและเสียหายดังกล่าวพยายามที่จะยื่นข้อเรียกร้องให้ทางคณะกรรมการบอร์ดและผู้บริหาร บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) และกระทรวงคมนาคม ให้ดำเนินการเยียวยาให้เสร็จสิ้นโดยเร็วแล้วก็ตาม แต่ทว่ากลับไม่ได้รับการตอบสนองให้เป็นไปตามข้อเสนอแต่อย่างใด และในทางกลับกันกลับมีความพยายามที่จะขยายสนามบินสุวรรณภูมิออกไปอีกใน เฟสที่ 2-3 โดยเฉพาะการสร้างรันเวย์ที่ 3 ซึ่งจะก่อให้เกิดผลกระทบอย่างรุนแรงเพิ่มมากขึ้น โดยที่การดำเนินการตามมาตรการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ยังดำเนินการยังไม่ครบถ้วนแต่อย่างใด

ด้วยเหตุดังกล่าวสมาคมฯ และตัวแทนชาวบ้าน จึงต้องเดินทางมายื่นคำร้องต่อคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เพื่อได้มีมติระงับหรือเพิกถอนรายงานดังกล่าวเสีย หรือสั่งการไปยัง คชก. เพื่อสั่งให้บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) เพิ่มเติมข้อเรียกร้องของประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสนามบินสุวรรณภูมิ ลงในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (EHIA) ฉบับใหม่ คือ 1) กลุ่มบ้านเรือนประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงที่อยู่ในแนวเส้นเสียง NEF 30-40 ในเฟสที่ 1 ที่ต้องการขาย จำนวน 75 หลังคาเรือน ให้เร่งเจรจาซื้อโดยเร็ว 2) ขอให้มีคนกลาง หรืออนุญาโตตุลาการ เข้ามาดูแลในเรื่องของราคาชดเชยปรับปรุงบ้านและราคาซื้อขายบ้าน 3) ขอให้ชดเชยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบทางเสียงที่มีบ้านเรือนตั้งอยู่ระหว่างรันเวย์ที่ 1 และรันเวย์ที่ 2 หรือเรียกว่า "ช่องว่างหูกระต่าย" ทั้งฝั่งทิศเหนือและใต้ของสนามบินสุวรรณภูมิ เพราะในการบินของนักบินสายการบินต่างๆ นั้น มีการบินนอกเส้นเสียงอยู่เป็นประจำ ซึ่งการร้องเรียนในครั้งนี้หากไม่เป็นผล สมาคมฯ จะชาวบ้านจะนำความขึ้นฟ้องต่อศาลปกครองต่อไป