ทอท.เผยสายการบินขอยกเลิกเที่ยวบินตั้งแต่ 24 ม.ค.-28 มี.ค. รวม 32,991 เที่ยวบิน คาดทำรายได้ช่วงเดือน ก.พ.-มี.ค.ลดลง 30% ด้าน “สุวรรณภูมิ” ล่าสุดเหลือวันละ 523 เที่ยวบิน หรือลดลง 52.5% ส่วนผู้โดยสารลดลงถึง 75.8%
วันนี้ (23 มี.ค.) นางสาวชนาลัย ฉายากุล เลขานุการ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือทอท. ได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยรายงานผลการดำเนินงานของ ทอท.ซึ่งได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ซึ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นในหลายประเทศ และส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างรุนแรง ทำให้ท่าอากาศยานที่อยู่ในความรับผิดชอบดำเนินงานของ ทอท.ทั้ง 6 แห่ง ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ, ท่าอากาศยานดอนเมือง, ท่าอากาศยานเชียงใหม่, ท่าอากาศยานหาดใหญ่, ท่าอากาศยานภูเก็ต และท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย ได้รับผลกระทบจากจำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารที่ลดลงเป็นจำนวนมาก
โดยผลการดำเนินงานในเบื้องต้น ตามข้อมูล ณ วันที่ 3 มีนาคม 2563 มีสายการบินยกเลิกเที่ยวบินและแจ้งยกเลิกทำการบินล่วงหน้าตั้งแต่วันที่ 24 มกราคม 2563 ถึงวันที่ 28 มีนาคม 2563 รวม 32,991 เที่ยวบิน เป็นเที่ยวบินระหว่างประเทศจำนวน 26,648 เที่ยวบิน และเที่ยวบินภายในประเทศจำนวน 6,343 เที่ยวบิน คาดว่าจะส่งผลให้ ทอท.ได้รับผลกระทบในส่วนของรายได้ที่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Aeronautical Revenues) เป็นค่าธรรมเนียมในการขึ้น-ลงอากาศยาน (Landing Charges) คิดเป็น 20.69% และค่าธรรมเนียมการใช้สนามบิน (Passenger Service Charges : PSC) คิดเป็น 32.94%
ทำให้ในระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม 2563 รายได้ลดลงคิดเป็นประมาณ 30% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน ซึ่งยังไม่รวมผลกระทบของรายได้ที่ลดลงในส่วนที่ไม่เกี่ยวกับกิจการการบิน (Non-Aeronautical Revenues) และมาตรการที่ ทอท.ให้ความช่วยเหลือสายการบินและผู้ประกอบการ
@“สุวรรณภูมิ” เที่ยวบินลด 52.5% ส่วนผู้โดยสารลด 75.8%
ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉินท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ EMERGENCY OPERATION CENTER : EOC (COVID-19) ได้รายงานผลการสรุปจำนวนผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า-ออกท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ของวันที่ 22 มี.ค. 63 เวลา 00.00-23.59 น. ว่า มีจำนวนเที่ยวบินทั้งสิ้น 523 เที่ยวบิน แบ่งเป็น เที่ยวบินระหว่างประเทศ จำนวน 301 เที่ยวบิน (ขาออกจำนวน 149 เที่ยวบิน ขาเข้าจำนวน 152 เที่ยวบิน) เที่ยวบินภายในประเทศ จำนวน 222 เที่ยวบิน (ขาออกจำนวน 111 เที่ยวบิน ขาเข้าจำนวน 111 เที่ยวบิน)
มีผู้โดยสารที่เดินทางผ่านเข้า-ออก ณ ทสภ. จำนวนทั้งสิ้น 37,873 คน แบ่งเป็น ผู้โดยสารระหว่างประเทศ จำนวน 22,446 คน( ผู้โดยสารขาออกจำนวน 18,620 คน ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 3,826 คน) ผู้โดยสารภายในประเทศ จำนวน 15,427 คน (ผู้โดยสารขาออกจำนวน 5,333 คน ผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 10,094 คน)
โดยเปรียบเทียบตัวเลขเที่ยวบินและผู้โดยสารจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว พบว่ามีจำนวนเที่ยวบินลดลงร้อยละ 52.5 และจำนวนผู้โดยสารลดลงร้อยละ 75.8
สำหรับด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณภูมิได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 3,826 คน พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI 1 ราย ส่งต่อโรงพยาบาล พบผู้โดยสารคนไทยที่มาจากต่างประเทศที่ได้รับผลกระทบจากโรค COVID-19 ที่ไม่มีเอกสารแสดงผลการตรวจ Covid-19 ในระยะเวลาไม่เกิน 3 วัน ก่อนเข้าเมือง จำนวน 4 คน (อยู่ระหว่างรอผล Lab) ซึ่งจะต้องมีผล Lab Negative ถึงจะเข้าเมืองได้ โดยที่ผู้โดยสารพักรออยู่ที่ห้องกักชั่วคราว (D3) ของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
นอกจากนั้น มีผู้โดยสารที่เอกสารหลักฐานประกอบการพิจารณาเข้าเมืองไม่ครบตามที่กำหนด โดยถูกปฏิเสธเข้าเมือง จำนวน 55 ราย สำหรับผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีใต้ จำนวน 20 ราย จำแนกเป็นผู้โดยสารที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 5 ราย ไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI เก็บตัวอย่างบุคลากรในสนามบินสุวรรณภูมิส่งตรวจจำนวน 2 คน รอผล Lab
ทั้งนี้ ในวันที่ 23 มีนาคม 2563 มีเที่ยวบินที่มาจากประเทศเกาหลี จำนวน 3 เที่ยวบิน (สายการบินไทย 1 เที่ยวบิน KOREAN AIRLINES 2 เที่ยวบิน) มีจำนวนผู้โดยสารทั้งสิ้น 116 คน โดยเป็นผู้โดยสารคนไทยจำนวน 20 คน ซึ่งในจำนวนนี้มีผู้โดยสารที่เป็นแรงงานไทยที่เดินทางมาจากประเทศเกาหลีที่มีวีซ่าการเดินทางหมดอายุ (Overstay) จำนวน 5 คน และตรวจไม่พบผู้โดยสารที่เข้าเกณฑ์ PUI
นอกจากนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ สนามบินสุวรรณูมิ ยังได้ดำเนินการคัดกรองผู้โดยสารขาออกจำนวนทั้งสิ้น 18,620 คน ไม่พบผู้โดยสารเข้าเกณฑ์ PUI รวมถึงได้มีการเก็บตัวอย่างบุคลากรใน สนามบินสุวรรณภูมิส่งตรวจจำนวน 2 คน โดยอยู่ในระหว่างรอผล Lab
