นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า จากแผนส่งเสริมยกระดับราคาผลไม้ปีที่ผ่านมา โดยผลไม้ส่วนใหญ่มีราคาดีขึ้น ทั้งทุเรียน และมังคุด เพราะมีคุณภาพดี ทำให้ปี 2563 ได้กำหนด 9 มาตรการดูแลทั้งด้านคุณภาพ การตลาด และประชาสัมพันธ์เชิงรุกให้ผลไม้ไทยเป็นที่นิยมมากขึ้น
ทั้งนี้ มาตรการแรกเป็นการหาตลาดรองรับชัดเจน ดึงผู้ซื้อกว่า 50 กลุ่ม มาซื้อผลไม้โดยตรง มีเป้าหมาย 20,000 ตัน มาตรการต่อมาเป็นการเชื่อมโยงผลผลิตเข้าสู่ห้างและร้านค้าธงฟ้า มีเป้าหมาย 50,000 ตัน
มาตรการที่ 3 คือการเพิ่มช่องทางจำหน่ายผลไม้แต่ชนิดเป็นกรณี ๆ ไป มาตรการที่ 5 การรณรงค์ให้บริโภคผลไม้มากขึ้น อาทิ การจัดมหกรรมผลไม้เป็นรายชนิด มาตรการที่ 6 การกำกับดูแลล้งรับซื้อผลไม้ทั้งของไทยและล้งต่างประเทศ มีการประกาศและแนะนำล้งที่น่าเชื่อถือ เพื่อเป็นแนวทางให้ชาวสวนตัดสินใจก่อนขายผลไม้ และกำหนดแนวทางปฏิบัติไม่ให้มีการเอาเปรียบชาวสวน
นอกจากนี้ มาตรการที่ 6 การประชาสัมพันธ์เชิงรุก ตั้งเป้าให้ผลไม้ไทยมีแบรนด์เป็นของตนเอง มาตรการที่ 7 เสริมศักยภาพให้ผู้ส่งออกไทย ให้การรับรองเครื่องหมายผู้ส่งออก สามารถส่งออกผลไม้ได้สะดวกขึ้นแบบไม่ต้องตรวจซ้ำ มาตรการที่ 8 ฝึกให้แรงงานมีความชำนาญในการคัดเลือกผลไม้คุณภาพก่อนขาย และมาตรการที่ 9 จะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า หากเกิดปัญหาราคาตกต่ำ จะเน้นการเชิญชวนผู้ซื้อให้เข้าไปถึงสวน เช่น การดึงกรุ๊ปทัวร์ท่องเที่ยวไปยังพื้นที่สวนผลไม้ และมาตรการเดิมปีที่แล้วสามารถนำผลไม้โหลดขึ้นเครื่องได้ฟรี
อย่างไรก็ตาม ปีนี้จะขยายไปถึงต่างประเทศ โดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศจะรวบรวมประเทศปลายทางที่สามารถนำผลไม้เข้าได้แบบไม่มีเงื่อนไขและมีเงื่อนไข เพื่อออกมาตรการขอความร่วมมือสายการบินได้อย่างเหมาะสม ซึ่งเป็นการเตรียมล่วงหน้า เพื่อส่งเสริมให้ปีนี้ยังคงเป็นปีทองของผลไม้ไทยเป็นต้น