xs
xsm
sm
md
lg

“จุรินทร์” เตรียมถกแก้ผลไม้ครบวงจร วางแผนระบายทั้งในประเทศ-ส่งออก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“จุรินทร์” เตรียมนั่งหัวโต๊ะ เชิญล้ง ผู้ส่งออก และผู้ที่เกี่ยวข้องถกมาตรการแก้ไขปัญหาผลไม้แบบครบวงจรที่จังหวัดจันทบุรี 8 ก.พ.นี้ เล็งแก้ปัญหาล้งกับเกษตรกรเบี้ยวการซื้อขาย จ่อใช้สัญญาที่บังคับใช้ได้ตามกฎหมาย พร้อมวางแผนกระจายผลผลิต เผยในประเทศจะจับมือตลาด ห้าง ช่วยระบาย ดึงสายการบินให้โหลดขึ้นเครื่อง เปิดพื้นที่ขายในปั๊ม ส่วนด้านส่งออก ช่วยดอกเบี้ย 3% และลุยขายเพื่อนบ้าน จีน อินเดีย

นายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยว่า วันที่ 8 ก.พ. 2563 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ จะเป็นประธานในการแก้ปัญหาการค้าผลไม้ไทยแบบครบวงจร ที่จังหวัดจันทบุรี โดยจะเชิญโรงคัดและบรรจุผลไม้ (ล้ง) ผู้ส่งออก และผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนมาร่วมหารือ เพื่อร่วมกันจัดทำมาตรการในการดูแลราคาผลไม้ภาคตะวันออกในช่วงที่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดตั้งแต่ช่วงเดือน เม.ย. 2563 เป็นต้นไป โดยเฉพาะทุเรียน มังคุด เงาะ เพื่อป้องกันปัญหาราคาตกต่ำ และหาช่องทางในการระบายผลผลิตออกสู่ตลาดทั้งในประเทศ และส่งออกต่างประเทศ

ในการแก้ไขปัญหาการรับซื้อผลไม้ระหว่างล้งกับเกษตรกร จะผลักดันให้มีการทำสัญญาที่ถูกต้องและบังคับใช้ได้ทางกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ปฏิบัติตาม เพราะที่ผ่านมาเคยมีปัญหาล้งเบี้ยวเกษตรกรเพราะราคาผลไม้ลดลงก็ไม่ยอมซื้อในราคาที่เคยตกลงกันไว้ อยากจะซื้อในราคาที่ถูกกว่า หรือเกษตรกร พอราคาสูงกว่าราคาที่ตกลงไว้ก็ไม่ยอมขายเพราะอยากขายได้ในราคาที่สูงขึ้น จึงต้องมีสัญญาที่เอาผิดกันได้ ซึ่งกำลังประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าจะทำสัญญาที่บังคับได้ตามกฎหมายกันอย่างไร

ส่วนการรับมือกับผลผลิตผลไม้ที่จะออกสู่ตลาด ด้านตลาดในประเทศ มีแผนจะร่วมกับตลาดที่อยู่ในการส่งเสริมของกรมฯ เป็นแหล่งกระจายผลไม้ ทำการเชื่อมโยงการจำหน่ายระหว่างผู้ผลิต ผู้ส่งออก กับเกษตรกร ร่วมมือกับห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง เพื่อจำหน่ายผลไม้ และจัดมหกรรมผลไม้ เพื่อกระตุ้นการบริโภคผลไม้ ทั้งในส่วนของนักท่องเที่ยวไทยและต่างชาติในแหล่งท่องเที่ยวรวม 4 ภาค รวมทั้งจะประสานกับสายการบินเพื่อให้สามารถนำผลไม้ขึ้นเครื่อง เพื่อนำไปบริโภคหรือใช้เป็นของฝาก มีเป้าหมายขอความร่วมมือจากทุกสายการบิน ประสานสถานีบริการน้ำมันเพื่อเปิดพื้นที่ให้เกษตรกรจำหน่ายผลไม้ ดึงไปรษณีย์ไทยช่วยจำหน่ายและขนส่งผลไม้ และประสานภัตตาคารและโรงแรมเพื่อนำผลไม้ไปใช้เสิร์ฟลูกค้า เป็นต้น

ส่วนด้านการส่งออก มีแผนจะช่วยสนับสนุนสภาพคล่องกับผู้ส่งออก มีวงเงินให้กู้ประมาณ 1,000 ล้านบาท โดยจะช่วยสนับสนุนดอกเบี้ย 3% เพื่อให้ผู้ส่งออกมีเงินทุนไปซื้อผลไม้จากเกษตรกร และยังจะเร่งทำตลาดส่งออก โดยมีเป้าหมายตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน จีน และอินเดีย

สำหรับคาดการณ์ผลผลิตผลไม้ปี 2563 มีดังนี้ ทุเรียน 1.163 ล้านตัน มังคุด 3.72 แสนตัน เงาะ 3.05 แสนตัน ลำไย 1.07 ล้านตัน ลิ้นจี้ 3.7 หมื่นตัน และลองกอง 1.18 แสนตัน โดยทุเรียนจะเริ่มออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือน เม.ย. 2563 เช่นเดียวกับมังคุด และเงาะ ที่จะทยอยออกตามมา ส่วนภาคใต้ ทุเรียน มังคุด เงาะ จะเริ่มออกตั้งแต่เดือน ก.ค. 2563 ลำไย เริ่มออกช่วง ก.ค. 2563 ลิ้นจี่ เดือน เม.ย. 2563 และลองกอง เริ่มออกเดือน ก.ค. 2563 ส่วนที่ภาคใต้ออก ก.ย. 2563


กำลังโหลดความคิดเห็น