นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ประชุมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ร่วมกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เพื่อหามาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เนื่องจากเอสเอ็มอีเป็นเสาหลักสำคัญของเศรษฐกิจไทย เมื่อเศรษฐกิจชะลอตัว จึงต้องดูแลไม่ให้ได้รับผลกระทบมากเกินไป หรือดูแลกลุ่มที่ดีอยู่ ก่อนจะมีปัญหาภายหลัง จึงสั่งให้ตั้งคณะทำงานจากกระทรวงการคลัง ธปท. สมาคมธนาคารไทย ภาคเอกชน ร่วมหารือออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีในวันที่ 7 มกราคม 2563 ทั้งนี้ เพื่อประสานให้ ธปท.พิจารณาผ่อนปรนเงื่อนไขการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับสภาพเศรษฐกิจ หรือไม่หละหลวมจนเกินไป แต่เพื่อให้เติมทุนช่วยเหลือผู้ประกอบการได้ โดยมีบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.) ช่วยค้ำประกันสินเชื่อ ดังนั้น หลังจากเดินทางกลับจากฉลองปีใหม่ ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจะได้รับข่าวดีอย่างแน่นอน
ทางด้านนายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า เตรียมหารือกระทรวงอุตสาหกรรม และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) นำเงินกองทุน 10,000 ล้านบาท จาก สสว. บางส่วนมาช่วยดูแลผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเพิ่มสภาพคล่องกับผู้ประกอบการ
นอกจากนี้ ยังมีแนวคิดให้แบงก์รัฐ เช่น ธนาคารออมสิน ช่วยเหลือดูแลภาระหนี้ส่วนบุคคลจากปัญหาบัตรเครดิต เพื่อลดภาระการผ่อนชำระให้น้อยลง ขณะที่ธนาคารพาณิชย์พร้อมปล่อยสินเชื่อผู้ประกอบการผ่านมาตรการของรัฐ และประสานกรมสรรพากรช่วยดูแลการปรับโครงสร้างหนี้ไม่ให้มีภาระภาษีเกิดขึ้น ตลอดจนการปรับเงื่อนไข พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้าง เปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีคนตัวเล็กเข้าไปแข่งขันงานจากภาครัฐ เพื่อสร้างโอกาสให้กับรายย่อย
ขณะที่นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ไทยเคยผ่านพ้นปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 มาแล้ว ดังนั้น ปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวขณะนี้เมื่อหลายฝ่ายร่วมกันผลักดันและช่วยเหลือ คาดว่าจะผ่านพ้นไปได้ ในส่วนของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) ยังมีมาตรการดูแลเอสเอ็มอีผู้ส่งออก ทั้งด้านลดภาระหนี้และการเพิ่มสภาพคล่องด้วยเงื่อนไขผ่อนปรน
นายปรีดี ดาวฉาย ประธานสมาคมธนาคารไทย กล่าวว่า อยากให้ภาคเอกชนปรับลดเป้าหมายยอดขายลงให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว เพื่อลดแรงกดดันกับกระแสเงินสดสอดคล้องกับยอดขายชะลอตัว เนื่องจากปัจจัยภายนอกประเทศมีปัญหาการส่งออกหดตัว จึงกระทบไปทุกส่วน ธนาคารต้องคุมเข้มการปล่อยสินเชื่อให้เหมาะสมกับเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม พร้อมพิจารณาสินเชื่อเพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายรัฐ