ศูนย์วิจัยมหาวิทยาลัยกรุงเทพ หรือกรุงเทพโพลล์ เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนจากทุกภูมิภาคทั่วประเทศ จำนวน 1,197 คน เรื่อง "ถอดบทเรียน แชร์ลูกโซ่ คนไทยได้รับบทเรียนอะไร"
จากการสำรวจพบว่า รูปแบบแชร์ลูกโซ่ที่ประชาชนรู้จักและเคยทราบ ส่วนใหญ่ ร้อยละ 95.9 ระบุ แชร์ลูกโซ่ที่แฝงมากับการลงทุน น้ำมัน ทองคำ สกุลเงินต่างประเทศ รองลงมา ร้อยละ 52.9 ระบุ แชร์ลูกโซ่ที่แฝงมากับธุรกิจขายตรง และร้อยละ 50.0 ระบุ แชร์ลูกโซ่ออนไลน์
ส่วนความเห็นต่อปัจจัยที่แชร์ลูกโซ่สามารถจูงใจคนให้หลงเชื่อส่วนใหญ่ ร้อยละ 47.7 ระบุว่า คนมีความโลภเป็นจุดอ่อน รองลงมา ร้อยละ 28.6 ระบุว่า ได้รับผลตอบแทนสูงมากกว่าปกติ / สูงกว่าทำธุรกิจอื่นๆ และร้อยละ 10.3 ระบุว่า คนอยากหารายได้เพิ่มที่รวดเร็ว/เห็นผลเร็ว
เมื่อถามว่า จากกรณีแชร์ลูกโซ่ สะท้อนหรือให้บทเรียนอะไรกับสังคมไทย ประชาชนร้อยละ 40.7 ระบุว่า มีคนจำนวนมากตกเป็นเหยื่อเพียงเพราะอยากได้รับผลตอบแทนสูง รองลงมา ร้อยละ 21.0 ระบุว่า สังคมขาดการให้ความรู้/เท่าทัน ต่อกระบวนการลงทุน และร้อยละ 17.1 ระบุว่า รายได้ในปัจจุบันไม่เพียงพอ ต้องการอาชีพเสริมเพิ่มรายได้
ส่วนวิธีป้องกันตัวเองเพื่อให้ปลอดภัย ไม่ตกเป็นเหยื่อในวงจรธุรกิจแชร์ลูกโซ่นั้น ประชาชนร้อยละ 39.8 ระบุว่า ให้ปฏิเสธทันทีเมื่อมีคนเข้ามาคุยและเชิญชวนร่วมทำธุรกิจประเภทนี้ รองลงมา ร้อยละ 33.5 ระบุว่า ให้คิดไว้เสมอว่าไม่มีอะไรได้มาง่ายๆ และร้อยละ 14.9 ระบุว่า ต้องหาข้อมูลให้รอบด้านและปรึกษาคนรอบข้างก่อนตัดสินใจ