xs
xsm
sm
md
lg

"ศรีสุวรรณ"จ่อร้อง ป.ป.ช.สอบ"เต้"ตั้งตนเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ ส่อขัดจริยธรรมร้ายแรง

เผยแพร่:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้โชว์หนังสือคำสั่งแต่งตั้งตัวเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ พร้อมเผยว่าเมื่อวันที่ 13 สิงหาคม ที่ผ่านมา พรรคไทยศรีวิไลย์ได้แถลงออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอิสระ ต่อมาวันที่ 10 กันยายน พรรคประชาธรรมไทย ได้แถลงออกจากพรรคร่วมรัฐบาลมาอยู่ในสถานะฝ่ายค้านอิสระเช่นกัน ดังนั้น พรรคไทยศรีวิไลย์ และพรรคประชาธรรมไทย ซึ่งมี ส.ส. แบบบัญชีรายชื่อจำนวนพรรคละ 1 เสียง จึงตัดสินใจมาทำงานร่วมกันในฐานะพรรคร่วมฝ่ายค้านอิสระ ทั้งนี้ เพื่อให้การทำหน้าที่ ส.ส. พรรคร่วมฝ่ายค้านอิสระจำนวน 2 เสียง มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างเต็มที่ พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาบ้านเมืองต่อฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านอย่างสร้างสรรค์ จึงได้แต่งตั้งผู้บริหารฝ่ายค้านอิสระขึ้นมานั้น

การกระทำดังกล่าว ไม่มีกฎหมายฉบับใดหรือกฎหมายรัฐธรรมนูญใดให้อำนาจไว้ หากแต่เป็นการขัดต่อมาตรา 106 ของรัฐธรรมนูญ 2560 ที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ภายหลังที่คณะรัฐมนตรีเข้าบริหารราชการแผ่นดินแล้ว พระมหากษัตริย์จะทรงแต่งตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้เป็นหัวหน้าพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรที่มีจำนวนสมาชิกมากที่สุดเป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมีประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการ

ดังนั้น การที่นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ลงนามสถาปนาตนเองขึ้นมาเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ และสถาปนานายพิเชษฐ สถิรชวาล มาเป็นประธานที่ปรึกษาผู้นำฝ่ายค้านอิสระ จึงอาจขัดต่อ พ.ร.ป.พรรคการเมือง 2560 และขัดต่อรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 5 มาตรา 160 ประกอบมาตรา 115 ซึ่ง ส.ส.ทั้งสองได้ปฏิญาณตนว่าจะรักษาไว้และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญทุกประการไว้แล้ว รวมทั้งการขัดต่อมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงที่บัญญัติไว้ชัดเจนว่า ส.ส. ต้องยึดมั่นและธํารงไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ซึ่งในระบอบประชาธิปไตยแบบรัฐสภาทั่วโลกมีแต่ผู้นำฝ่ายรัฐบาล กับผู้นำฝ่ายค้านเท่านั้น การแต่งตั้งตนเองเป็นผู้นำฝ่ายค้านอิสระ จึงขัดต่อรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ซึ่งไม่อาจยอมรับได้

ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย จึงจะนำความไปร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ให้ใช้อำนาจดำเนินการไต่สวน สอบสวน เพื่อระงับและหยุดยั้งการกระทำดังกล่าว และลงโทษการกระทำที่ฝ่าฝืนเสีย โดยจะเดินทางไปยื่นคำร้องในวันพุธที่ 6 พฤศจิกายนนี้ เวลา 09.30 น. ณ สำนักงาน ป.ป.ช. ถนนสนามบินน้ำ จ.นนทบุรี