นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้หารือกับนายฮิเดกิ มากิฮาระ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น หรือเมติ ในโอกาสเดินทางเยือนไทยเพื่อร่วมการประชุมรัฐมนตรีอาร์เซ็ป (RCEP) และเป็นสักขีพยานการลงนามความตกลงระหว่างเอกชนไทย-ญี่ปุ่น ในด้านความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การลงทุนของสตาร์ทอัพ ที่มีนวัตกรรมในไทย ภายใต้โครงการ Innovation Columbus ซึ่งทางเมติดำเนินการในไทยเป็นแห่งแรก และจะเป็นหนึ่งในผลลัพธ์สำคัญของการหารือทวิภาคีระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย-ญี่ปุ่น ในห้วงการประชุมสุดยอดอาเซียนด้วย
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยินดีที่มีการลงนามเอ็มโอยูจำนวน 6 ฉบับ ระหว่างบริษัทขนาดใหญ่และสตาร์ทอัพของไทยกับญี่ปุ่น โดยเชื่อมั่นว่าความร่วมมือด้านสตาร์ทอัพจะเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญและต่อยอดไปสู่ความร่วมมือในอนาคต พร้อมทั้งหารือถึงการพัฒนาอีอีซี เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจของไทยในระยะยาว โดยรองนายกรัฐมนตรี ขอให้ญี่ปุ่นขยายความร่วมมือและถ่ายทอดความรู้ในสาขาที่ญี่ปุ่นมีความเชี่ยวชาญ ทั้งการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมชั้นสูง พร้อมเชิญชวนภาคเอกชนญี่ปุ่นลงทุนใน 4 อุตสาหกรรมเป้าหมาย ได้แก่ อากาศยาน เครื่องมือแพทย์ หุ่นยนต์ และดิจิทัล
สำหรับประเด็นด้านภูมิภาค ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องว่าการบรรลุการเจรจาอาร์เซ็ปจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการเติบโตของเศรษฐกิจในภูมิภาคเป็นอย่างมาก รวมทั้งยกระดับกฎระเบียบในด้านต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนในอนาคต
ในการนี้ รองนายกรัฐมนตรี ขอบคุณญี่ปุ่นที่ให้ความร่วมมือในการจัดตั้งสถาบันโคเซ็น 2 แห่งในไทย ซึ่งจะช่วยพัฒนาทักษะแรงงานในการรองรับการลงทุนของญี่ปุ่นในไทยและอนุภูมิภาคต่อไป