พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดงาน ASEAN Business and Investment Summit 2019 (ABIS 2019) พร้อมกล่าวปาฐกถาพิเศษ ว่า ยินดีและเป็นเกียรติที่ได้มาเป็นประธานเปิดงานและต้อนรับทุกภาคส่วน โดยเฉพาะภาคธุรกิจซึ่งมีความสำคัญ ไทยมีโอกาสได้จัดการประชุมสุดยอดอาเซียนครั้งที่ 35 อีกครั้ง ในฐานะที่ไทยเป็นประธานอาเซียน ซึ่งจะได้เดินหน้าอาเซียนในยุค 4.0 โดยไทยได้พัฒนา ผลักดันนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ทั้งการค้าการลงทุน New Business Model โดยไทยพยายามนำเทคโนโลยี ใช้นวัตกรรมทางการผลิต เพื่อยกระดับเศรษฐกิจ ซึ่งรัฐบาลไทยได้ร่วมกับเอกชนในการพัฒนาประเทศด้านการค้าการลงทุน ทั้งด้านความมั่นคงทางพลังงานและทรัพยากรมนุษย์ เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน เน้นการลงทุนร่วมแบบ PPP ในเรื่องโครงสร้างพื้นฐาน โดยเฉพาะ EEC ด้านการขนส่งลอจิสติกส์ ทั้งสนามบิน ท่าเรือ เพื่อรองรับการขนส่งกับอาเซียนเป็นหลัก รวมทั้งภาคการเกษตรที่เร่งผลักดันเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจในการกระจายสินค้าด้วย
นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนธุรกิจเกิดใหม่ ทั้ง SMEs ต่างๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ในศตวรรษที่ 21 ที่มีการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ไทยจึงเตรียมความพร้อมให้มีการเชื่อมโยงด้านดิจิตอลกับอาเซียนในทุกมิติ
ทั้งนี้ หวังว่าการประชุมจะมีการแลกเปลี่ยนและเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ที่จะได้มีการเชื่อมโยงอย่างไร้รอยต่อ ซึ่งรวมไปถึงกฎหมาย และกฎระเบียบต่างๆ เพื่อนำไปสู่การปฎิบัติที่เป็นรูปธรรม เรื่องใดที่เป็นประโยชน์รัฐบาลยืนยันจะทำให้เกิดกับประชาชนและประเทศสมาชิกให้สูงที่สุด
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า วันนี้โลกเปลี่ยนแล้วเราไม่ปรับตัวไปไม่ได้ จึงต้องเตรียมการให้พร้อม เมื่อโลกปรับเราต้องเปลี่ยน ซึ่งไทยยืนยันว่า ได้ทำเต็มที่เพื่อเตรียมความพร้อมกับการเปลี่ยนแปลง ขอให้การจัดงานครั้งนี้ประสบความสำเร็จ มีผลเป็นรูปธรรม เสริมสร้างอาเซียนให้เดินหน้าในยุคดิจิตอลให้เข้มแข็งไปด้วยกัน ไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง แม้ธุรกิจจะต้องมีการแข่งขันกันเป็นเรื่องธรรมดา แต่ต้องคำนึงถึงประโยชน์ชาติเป็นหลัก และเคารพสิทธิมนุษยชนด้วย โดยเฉพาะการคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมที่ทุกคน ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกัน เพราะปัญหาทุกอย่างแก้ไม่ได้โดยลำพังเพียงผู้เดียว