xs
xsm
sm
md
lg

สมเด็จพระเทพฯ ทรงร่วมซ้อมเสมือนจริงริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ ๔-๕

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

วันนี้ (๒๒ ต.ค.๒๕๖๐) เวลา ๐๙.๕๑ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ โดยรถยนต์พระที่นั่งมายังพระเมรุมาศ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ทรงร่วมซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสสริยยศพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ริ้วขบวนที่ ๔ เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานและเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย จากพระเมรุมาศเข้าสู่พระบรมมหาราชวัง ซึ่งเป็นริ้วขบวนในวันที่ ๒๗ ตุลาคม ๒๕๖๐ และริ้วขบวนที่ ๕ เชิญพระบรมอัฐิโดยพระที่นั่งราเชนทรยานจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ขึ้นประดิษฐานที่พระวิมาน บนพระที่นั่งจักรมหาปราสาท ซึ่งเป็นริ้วขบวนในวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยทั้งสองริ้วขบวนนี้เป็นการซ้อมพื้นที่จริงเป็นครั้งแรก

พล.ต.ณัฐวัฒน์ อัคนิบุตร ที่ปรึกษาคณะกรรมการริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศฯ กองทัพภาคที่ ๑ ดำเนินการฝึกซ้อมตามหมายกำหนดการ โดยสมมุติขั้นตอนต่างๆ เสมือนวันจริงว่า เริ่มในเวลา ๐๗.๕๐ น. ดังต่อไปนี้ เมื่อสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จขึ้นพระเมรุมาศประทับพระราชอาสน์ที่ข้างพระจิตกาธาน พร้อมพระบรมวงศ์ เจ้าพนักงานภูษามาลา เปิดผ้าเยียรบับคลุมพระบรมอัฐิออก ทรงจุดธูปเทียนเครื่องราชสักการะพระบรมอัฐิ แล้วสรงด้วยน้ำพระสุคนธ์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมอัฐิบูชาพระสงฆ์ ทรงทอดผ้าไตรสามหาบวางบนผ้าเยียรบับคลุมพระบรมอัฐิที่พระจิตกาธาน ครั้งละ ๑ ไตร ประทับพระราชอาสน์ พระสงฆ์ขึ้นสดับปกรณ์ครั้งละ ๑ รูป จนครบ ๙ ไตร ๙ รูป

จากนั้น ทรงเก็บพระบรมอัฐิ จุ่มน้ำพระสุคนธ์ในทองคำลงยา แล้วทรงวางในพระโกศทองคำลงยาประดับเพชร จำนวน ๖ พระโกศ เจ้าพนักงานภูษมาลาประมวลพระบรมราชสรีรางคาร ลงในพระผอบโลหะปิดทองพักไว้ในพระเมรุมาศ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระโกศบรรจุพระบรมอัฐิแก่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี และทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี

เมื่อทั้งสามพระองค์ทรงรับแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมอัฐิ ๖ พระโกศ ลงจากพระเมรุมาศ ไปยังพระที่นั่งทรงธรรม และเชิญประดิษฐานในบุษบกเหนือพระแท่นแว่นฟ้า ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะบูชาพระบรมอัฐิ

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงถวายโตกภัตตาหารสามหาบ ๙ ชุด ต่อมาทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้พระราชวงศ์ประเคน

ระหว่างพระสงฆ์กำลังฉัน ด้านนอกจะเริ่มตั้งริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ ๔ เชิญพระที่นั่งราเชนทรยานจอดที่หน้าพระที่นั่งทรงธรรม ตามด้วยพระราเชนทรยานน้อย นำริ้วตั้งอยู่ที่จุดศาลาลูกขุนที่ ๑ - ๔

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวถวายเครื่องสังเค็ดงานพระเมรุมาศถวายพระเพลิงพระบรมศพแด่สมเด็จพระราชาคณะ ซึ่งจะเดินเข้ามารับอีก ๓๑ รูป แล้วทรงยืนประเคนเครื่องสังเค็ดแด่พระราชาคณะ ซึ่งจะเดินเข้ามารับอีก ๓๑ รูป จนครบ ๔๐ รูป ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ออกจากพระที่นั่ง เจ้าหน้าที่นิมนต์พระสงฆ์อีก ๓๐ รูป ขึ้นนั่งยังอาสน์สงฆ์ สวดมาติกา จบ เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตร เที่ยวละ ๑๕ ไตร จำนวน ๒ ครั้ง

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมอัฐิไปประดิษฐาน ณ พระที่นั่งราเชนทรยาน และเชิญพระผอบพระบรมราชสรีรางคารประดิษฐานในพระที่นั่งราเชนทรยานน้อย การนี้ พระบรมอัฐิอีก ๕ พระโกศ จะเชิญโดยรถยนต์พระที่นั่งไปประดิษฐานล่วงหน้า ณ พระแท่นสุวรรณเบญจดล ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

จากนั้น เจ้าพนักงานรัวกรับครั้งที่ ๑ เพื่อเตรียมขบวน เมื่อรัวกรับครั้งที่ ๒ จบลง ดร.จิรายุ อิศรางกูร ณ อยุธยา เลขาธิการพระราชวัง กราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ร่วมในริ้วขบวน และขอพระราชทานพระราชานุญาตยาตราริ้วขบวน พร้อมแล้วรัวกรับครั้งที่ ๓ ฟังสัญญาณ "หน้าเดิน" จากผู้คุมริ้วขบวน

วงดุริยางค์เริ่มบรรเลงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จำนวน ๔ เพลง ประกอบด้วย เพลงมาร์ชราชวัลลภ มาร์ชธงชัยเฉลิมพล เพลงยามเย็น และเพลงใกล้รุ่ง ซึ่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้นำเพลงพระราชนิพนธ์ของในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาใช้ประกอบจังหวะการเดินในริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศริ้วที่ ๑ กับ ๔ เพื่อให้ประชาชนรู้สึกผ่อนคลายจากบรรยากาศที่โศกเศร้า รวมถึงซาบซึ้งในพระอัจฉริยภาพด้านดนตรี ของในหลวง ร.๙

ริ้วขบวนที่ ๔ เริ่มยาตราในการซ้อมวันนี้เวลา ๑๐.๔๕ น. ใช้เส้นทางจากถนนกลางสนามหลวง - ถนนราชดำเนินใน - ถนนหน้าพระลาน - เข้าประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง ระยะทาง ๑,๐๗๔ เมตร ใช้เวลา ๓๐ นาที เดินตามจังหวะเสียงกลองโดยการเดินปกติ จัดกำลังพลจำนวน ๘๓๔ นาย

ในริ้วขบวนที่ ๔ นี้ นำโดยขบวนม้านำ ๒ ม้า ตามด้วยพนักงานเชิญเครื่องสูงแผ่ลวด คณะรัฐมนตรีนำโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต่อมาเป็นพระที่นั่งราเชนทรยาน โดยมี รศ.นพ.ประดิษฐ์ ปัญจวีณิน ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช ปิยมหาราชการุณย์ ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานภูษามาลา ประคองพระบรมอัฐิ และ ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล ปฏิบัติหน้าที่เป็นเจ้าพนักงานภูษามาลา ประคองพระบรมราชสรีรางคารบนพระราเชนทรยานน้อย ตามลำดับ ตำรวจหลวง ๘ นาย เชิญธงชัยราชกระบี่ยุทธ ธงชัยพระครุฑพ่าห์ นำเสด็จสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว

จากนั้นในลำดับต่อมา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงพระดำเนินตาม ปิดท้ายริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ พร้อมด้วยเหล่าสมาชิกราชสกุลทุกมหาสาขา

เมื่อขบวนพระที่นั่งราเชนทรยานน้อยทรงพระบรมราชสรีรางคารถึงหน้าศาลาสหทัยสมาคม จะแยกขขบวนไปเทียบที่ประตูเกยหลังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยเสลี่ยงไปประดิษฐานในพระศรีรัตนเจดีย์ ขบวนพระที่นั่งราเชนทรยานทรงพระบรมอัฐิเทียบที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิฐพระโกศพระบรมอัฐิเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ขึ้นพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงยืน เมื่อประดิษฐานพระโกศพระบรมอัฐิในบุษบกแว่นฟ้าทองเหนือพระแท่นสุวรรณเบญจดลเรียบร้อยแล้ว เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อย และเครื่องราชสักการะบูชาพระบรมอัฐิ ทรงกราบ เสด็จออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ต่อมา สมมุติขั้นตอนต่างๆ เสมือนวันจริงในการซ้อมริ้วขบวนพระบรมราชอิสริยยศ ริ้วขบวนที่ ๕ สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปยังพระที่นั่งดุสิมหาปราสาท ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะ ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร ทรงกราบ พระสงฆ์ ๓๐ รูปที่สวดพระพุทธมนต์เมื่อวันก่อน ถวายพรพระจบ เสด็จฯ ไปทรงประเคนสำรับภัตตาหารแด่สมเด็จพระราชาคณะผู้เป็นประธานสงฆ์

ถัดมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมแด่สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ ซึ่งจะเดินเข้ามารับจนครบ ๓๐ รูป ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

ทรงจุดธูปเทียนดูหนังสือเทศน์พระราชทานให้เจ้าพนักงานพระราชพิธีเชิญไปตั้งที่โต๊ะข้างธรรมาสน์ พระมหาโพธิวงศาจารย์ วัดราชโอรสาราม ที่จะถวายเทศน์ขึ้นนั่งบนธรรมาสน์ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม

เสด็จฯ ไปทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยสำหรับพระบรมอัฐิ ทรงธรรม ทรงศีล พระมหาโพธิวงศาจารย์ ถวายอนุโมทนาบนธรรมาสน์ พระ ๔ รูป รับอนุโมทนา แล้วพระเทศน์ลงมานั่งยังอาสน์สงฆ์ เสด็จฯ ไปทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์ เจ้าพนักงานลาดพระภูษาโยง เสด็จฯ ไปทอดผ้าไตร ๕ ไตร พระสงฆ์สดับปกรณ์ ถวายอดิเรก ถวายพระพระพรลา

เจ้าหน้าที่พนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่จะสดับปกรณ์เท่าพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร จำนวน ๘๙ รูป เสด็จฯ ไปทรงทอดผ้าไตรและทรงหลั่งทักษิโณทก

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ลงจากบุษบกแว่นฟ้าทองบนพระแท่นสุวรรณเบญจดล ไปประดิษฐานบนพระที่นั่งราเชนทรยาน ที่เกยพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงยืน เมื่อเจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมอัฐิออกจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท

ต่อมา สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ตามไปยังพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาทแล้ว สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ ลงจากพระที่นั่งอาภรณ์พิโมกข์ปราสาท ตำรวจหลวงนำเสด็จออกทางประตูกำแพงข้างพระที่นั่งราชกรัณยสภาเข้าขบวนตาม พร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เพื่อตั้งริ้วขบวนที่ ๕ ใช้เส้นทางจากพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท - พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ระยะทาง ๖๓ เมตร ใช้เวลา ๓๐ นาที เดินทางจังหวะเสียงกลองโดยการเดินปกติ จัดกำลังพลจำนวน ๓๘๔ นาย

เมื่อขบวนแห่เชิญพระบรมอัฐิถึงพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมอัฐิขึ้นพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท แล้วเชิญพระโกศพระบรมอัฐิพักไว้หน้าพระวิมาน สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯ พร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ขึ้นชั้น ๓ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธสัมพรรโณภาศ ทรงกราบ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมอัฐิสมเด็จพระบรมราชบุพการี (พระวิมานกลาง)

สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้เจ้าพนักงานภูษามาลาเชิญพระโกศพระบรมอัฐิพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เข้าที่ประดิษฐาน ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะพระบรมอัฐิ เสด็จลงจากพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง ที่อัฒจันทร์มุขหน้าพระที่นั่งจักรีมหาปราสาท เสด็จฯ กลับ
กำลังโหลดความคิดเห็น