กรธ.พิจารณาหลักการและเหตุผลร่าง พ.ร.ป. ป.ป.ช. เสร็จสิ้นแล้ว

นายนรชิต สิงหเสนี โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เปิดเผยถึงการประชุม กรธ.นอกสถานที่ในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ที่ จ.ระยอง ว่า ที่ประชุมได้พิจารณาในส่วนของหลักการและเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตเสร็จสิ้นแล้ววานนี้ โดยมีข้อสรุปในหลักการเบื้องต้น คือหน้าที่และอำนาจจะยึดหลักการตามรัฐธรรมนูญเป็นหลัก รวมทั้งจะกำหนดระยะเวลาในการสอบสวน ไต่สวนของ ป.ป.ช. ให้ชัดเจน ขณะที่การแจ้งบัญชีทรัพย์สินของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะต้องแจ้งไปยัง ป.ป.ช. ส่วนข้าราชการระดับผู้ใหญ่ ให้แจ้งยังสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำหรับการดำรงอยู่ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. นั้น กรธ. จะยึดหลักการเดิม คือให้ดำรงอยู่เฉพาะบุคคลที่มีคุณสมบัติตามรัฐธรรมนูญ เนื่องจากมองว่า อำนาจของ ป.ป.ช. บางส่วนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะมุ่งเน้นปราบปรามการทุจริตอย่างแท้จริง หากมีการประพฤติผิดจริยธรรมร้ายแรงให้ขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ นอกจากนี้ ในส่วนของ ป.ป.ช. จังหวัดนั้น ยังไม่ได้ข้อสรุป เนื่องจาก กรธ. มองว่าไม่จำเป็นต้องมี แต่คณะกรรมการ. ป.ป.ช. ได้ยืนยันถึงความจำเป็น คงต้องรอการพิจารณาต่อของคณะอนุกรรมการ ก่อนส่งกลับมาให้ กรธ.พิจารณาอีกครั้ง

โฆษก กรธ. กล่าวเพิ่มเติมว่า กรธ. ได้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญให้สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว 5 ฉบับ จาก 10 ฉบับ และเตรียมส่งเพิ่มเติมอีก 5 ฉบับ ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการตรวจเงินแผ่นดิน ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา คาดว่าจะส่งให้ สนช. ทันตามกรอบเวลา 240 วัน