ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลได้นัดฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์คดีที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น ยื่นขอถอนฟ้องคดีที่ นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์ฯ ตกเป็นจำเลยฐานยักยอกทรัพย์ จากการที่นายศุภชัยให้เจ้าหน้าที่บัญชีเบิกเงินสดของสหกรณ์ฯ รวมกว่า 22 ล้านบาท โอนเข้าบัญชีของตัวเองและบุคคลที่ 3 โดยทุจริต โดยศาลชั้นต้นพิพากษาจำคุก นายศุภชัย 14 ปี 24 เดือน แต่เนื่องจากระหว่างที่มีการอุทธรณ์คดีนายศุภชัย ได้ให้ทนายความชดใช้เงินคืนให้กับสหกรณ์ฯ รวมกว่า 35 ล้านบาท สหกรณ์ฯ ในฐานะผู้เสียหาย จึงได้มอบหมายให้ผู้บริหารแผนฟื้นฟูของสหกรณ์ยื่นคำร้องขอถอนฟ้องคดี
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสมาชิก และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายทะเบียนสหกรณ์ ดังนั้น เมื่อเกิดความเสียหายที่มีมูลค่าสูง กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และนายทะเบียนได้สั่งระงับการถอนฟ้องในคดีนี้แล้ว ดังนั้นผู้บริหารแผนฟื้นฟูที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการของสหกรณ์ฯ จึงไม่มีอำนาจในการขอถอนฟ้องคดีนี้อีก ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอถอนฟ้อง โดยให้คดีดำเนินไปตามกระบวนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นอกจากคดีนี้แล้วยังมีคดีที่นายศุภชัย ตกเป็นจำเลยอีก 3 คดี ซึ่งมีคดีที่ร่วมกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฟอกเงินอยู่ด้วย รวมถึงยังมีคดีที่อยู่ในการทำสำนวนของดีเอสไอรวมอีกกว่า 10 คดี
นายวันชัย บุนนาค ทนายความของนายศุภชัย เปิดเผยว่า ภายหลังฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ นายศุภชัย เตรียมยื่นคำร้องฎีกาให้ศาลพิจารณาถอนฟ้องต่อไป ภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตาม การยกคำร้องของศาลวันนี้ไม่มีผลผูกโยงกับคำพิพากษา ซึ่งศาลชั้นต้นจำคุก 14 ปี 24 เดือน และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นอุทธรณ์
ศาลอุทธรณ์พิเคราะห์แล้วเห็นว่า สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น เป็นนิติบุคคลที่จัดตั้งขึ้นตาม พ.ร.บ.สหกรณ์ มีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมผลประโยชน์ของสมาชิก และอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของนายทะเบียนสหกรณ์ ดังนั้น เมื่อเกิดความเสียหายที่มีมูลค่าสูง กระทบต่อระบบเศรษฐกิจ และนายทะเบียนได้สั่งระงับการถอนฟ้องในคดีนี้แล้ว ดังนั้นผู้บริหารแผนฟื้นฟูที่ได้รับมอบอำนาจจากคณะกรรมการของสหกรณ์ฯ จึงไม่มีอำนาจในการขอถอนฟ้องคดีนี้อีก ศาลอุทธรณ์จึงมีคำสั่งให้ยกคำร้องขอถอนฟ้อง โดยให้คดีดำเนินไปตามกระบวนการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ต่อไป
อย่างไรก็ตาม นอกจากคดีนี้แล้วยังมีคดีที่นายศุภชัย ตกเป็นจำเลยอีก 3 คดี ซึ่งมีคดีที่ร่วมกับพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ เป็นจำเลยในข้อหาร่วมกันฟอกเงินอยู่ด้วย รวมถึงยังมีคดีที่อยู่ในการทำสำนวนของดีเอสไอรวมอีกกว่า 10 คดี
นายวันชัย บุนนาค ทนายความของนายศุภชัย เปิดเผยว่า ภายหลังฟังคำสั่งศาลอุทธรณ์ นายศุภชัย เตรียมยื่นคำร้องฎีกาให้ศาลพิจารณาถอนฟ้องต่อไป ภายใน 15 วัน อย่างไรก็ตาม การยกคำร้องของศาลวันนี้ไม่มีผลผูกโยงกับคำพิพากษา ซึ่งศาลชั้นต้นจำคุก 14 ปี 24 เดือน และยังอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลชั้นอุทธรณ์