MGR Online - ปธ.บริการแผนฟื้นฟูสหกรณ์ฯ คลองจั่น แจงสมาชิกอาจจะชำระหนี้ไม่ทันตามกำหนดภายในสิ้นปีนี้ เหตุติดปัญหาขายที่ดิน 2 แห่ง เนื่องจากศาลล้มละลายกลางสั่งให้ขายที่ดิน 2 แปลงด้วยวิธีขายทอดตลาด ต้องใช้เวลานาน
วันนี้ (23 มิ.ย.) เวลา 10.30 น. ที่สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น จำกัด นายประกิต พิลังกาสา ประธานกรรมการดำเนินการ ผู้บริหารแผนฟื้นฟู สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น แถลงข่าวชี้แจงคำสั่งศาลล้มละลายกลางกรณีอนุญาตให้ขายที่ดิน 2 แปลงของสหกรณ์ฯ คลองจั่นอย่างมีเงื่อนไขโดยวิธีการขายทอดตลาด โดยยืนยันว่าสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นมีสิทธิที่จะสามารถขายที่ดิน 2 แปลง จำนวน 9 ไร่ ในตำบลแพรกกษา จังหวัดสมุทรปราการ และที่ดินอีกจำนวน 1,616 ไร่ ที่อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับความเห็นชอบจากเจ้าหนักงานพิทักษ์ทรัพย์และคณะกรรมการเจ้าหนี้ เพื่อให้เป็นไปตามอำนาจและการนำเงินมาจัดสรรชำระหนี้ตามแผนฟื้นฟูกิจการ การขายที่ดินดังกล่าวเป็นไปตามข้อบังคับและมาตราฐานสากล มีการแต่งตั้งคณะทำงานและมีการประเมินราคาที่ถูกต้อง
โดยทางสหกรณ์ฯ ได้ติดต่อผู้ซื้อไว้แล้วโดยยึดราคาขายจากราคาประเมิน แต่ต่อมามีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งยื่นคดีค้านต่อศาลล้มละลายกลาง โดยระบุว่าราคาที่ขายไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ที่ดินเป็นสนามกอล์ฟเก่าควรจะมีราคาขายที่สูงกว่านี้ แต่ในความเป็นจริงที่ดินดังกล่าวปัจจุบันเป็นเพียงที่ดินรกร้างและอยู่ห่างไกล การยื่นคัดค้านดังกล่าวทำให้ศาลล้มละลายกลางมีการพิจารณาให้เปลี่ยนการขายเป็นวิธีขายทอดตลาดแทนวิธีการขายแบบเดิม
นายประกิตยังกล่าวยอมรับว่า การขายที่ดินโดยวิธีการขายทอดตลาดตามคำสั่งศาลล้มละลายกลาง คาดว่า จะไม่สามารถนำเงินมาชำระหนี้ได้ตามกำหนดในช่วงปลายปีนี้อย่างแน่นอน นอกจากนี้ ทรัพย์สินบางส่วนของนายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีตประธานสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยน คลองจั่น ทางสหกรณ์ก็ยังไม่สามารถนำมาแปลงเป็นทรัพย์สินเพื่อชำระหนี้ได้ เนื่องจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ ยังอยู่ระหว่างการยึดอายัดไว้
ส่วนกรณีที่นายไพบูลย์ นิติตะวัน นำสมาชิกเจ้าหนี้จำนวน 665 คน กล่าวโทษและฟ้องดำเนินคดีอาญาทุจริตกรณีทุจริตฉ้อโกงต่อสหกรณ์ฯ คลองจั่น ในการดำเนินการฟื้นฟูกิจการ และการบริหารดำเนินธุรกิจนั้น ยืนยันว่าสหกรณ์จะไม่ตอบโต้ในรายละเอียดเรื่องนี้ แต่จะขอสู้คดีเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงภายในศาล และยืนยันว่าการที่นายไพบูลย์กับพวกยื่นฟ้องร้องต่อศาลนั้นและมีการเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร นายไพบูลย์และพวกต้องรับผิดชอบต่อข้อมูลที่เผยแพร่ไป