นายกรัฐมนตรี เผย กำลังสอบทุจริตเงินอุดหนุนวัดมีกี่วัด ลั่นไม่สนใจ ไม่ใช้ ม.44 ลุย ปัดสำนักพุทธฯ มีปัญหา แต่อยู่ที่วัดให้ความร่วมมือหรือไม่ ถามจะให้งัด กม. ปิดวัดหรือ ชี้ ต้องสร้างจิตสำนึกคน ปลูกผักชีง่ายกว่ามั้ย เผยขึ้นทะเบียน ตรวจทรัพย์แล้ว 96% ระบุ กรมสอบสวนคดีพิเศษยังตามล่า “ธัมมชโย”
วันนี้ (20 มิ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 14.30 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบการจัดสรรเงินอุดหนุนวัด ว่า
ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนว่ามีกี่วัด ปลดคนไปเท่าไรแล้ว เขาปลดคนหรือยัง สอบสวนแล้วติดคุกหรือไม่ ก็ต้องเอามาติดคุกคดีอาญาอีก ตนไม่สนใจใครทั้งนั้น ส่วนจะออกมาตรา 44 มาบริหารจัดการหรือไม่นั้น คงไม่ต้องแล้ว ออกมาเยอะก็มาว่าตนอีก เพราะกฎหมายเดิมมีอยู่แล้ว เพียงแต่ตอนนี้มันละเมิดกฎหมาย ใช้งบประมาณเท่านั้นแล้วขอทอนเงินมามันได้หรือไม่ ส่วนสำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มีปัญหาเรื่องการตรวจสอบหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่มี มันอยู่ที่วัดให้ความร่วมมือหรือไม่
“แล้วจะให้ผมทำอย่างไร จะเอามาตรา 44 มาปิดวัดหรือ ปัดโธ่...คิดให้มันเป็น เขาก็ไปตรวจสอบมาใครผิดตรงไหนก็ว่าตรงนั้น ไม่ว่าจะพระ หรือพุทธศาสนิกชนที่ถูกหลอกบ้าง ก็ต้องไปแก้ปัญหากันมา ถ้าคนที่คิดจะได้ประโยชน์แบบนี้มันแก้อะไรไม่ได้ รัฐบาลก็แก้ไม่ได้ ถ้าตราบใดที่เขาจะให้เงินแล้วทอนเขา แล้วยังยอมเขา มันจะแก้อะไรได้หรือไม่ เราจึงต้องสร้างจิตสำนึกของแต่ละคนให้ได้ เราต้องแก้ไปด้วยกันไม่ใช่ว่าอะไรก็ให้รัฐทำ วันนี้การขึ้นทะเบียนวัด การตรวจสอบทรัพย์สินวัดทำไป 96 เปอร์เซ็นต์แล้ว แต่ถามว่ามันจะหมดหรือไม่ ผมก็ไม่แน่ใจว่ามันจะหมดหรอก ตราบใดที่คนอยากได้เงินวิธีอะไรก็ได้ การทุจริตมันไม่หมด ดังนั้นจิตสำนึกสำคัญที่สุด แต่มันปลูกกันได้หรือไม่ ปลูกผักชีจะง่ายกว่าหรือไม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวถึงการดำเนินคดีกับพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย ว่า เจ้าหน้าที่ยังตามติด ยังไม่จบ เดินหน้าดำเนินคดี ทำงานไปตามระบบ ไม่ใช่เขียนพาดหัวข่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยอมแพ้ ตนขอถามว่า เขายอมแพ้ที่ไหน ตอนนี้ยังเดินหน้าสอบสวนอยู่ทุกวัน ทำงานอยู่ทุกวัน แต่ไม่สามารถตอบคำถามได้ทุกวันอยู่แล้ว
