วันนี้ (7 ธ.ค.) เป็นวันที่ 38 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยเดินทางมาต่อคิว เพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเจ้าหน้าที่เปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรีอย่างเป็นระเบียบ โดยในเวลา 04.55 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี
ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย
น.ส.ทัชชา บำเรอจิต อายุ 43 ปี รองปลัดเทศบาลคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาพร้อมลูกสาว น.ส.พรสินี คนสวี อายุ 16 ปี เดินทางมาถึงบริเวณท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 03.00 น. กล่าวว่า ได้มากราบสักการะพระบรมศพพระองค์ท่านเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกมาช่วงเดือนพฤศจิกายน มากับลูกคนเล็ก ตอนนั้นการรอเข้าแถวยังต้องเดินวนรอบสนามหลวงไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง แต่คราวนี้มีการจัดระเบียบดีขึ้น แบ่งพื้นที่เป็นเต๊นท์ และมีการจัดเก้าอี้ให้ประชาชนนั่งรอ เมื่อได้เข้ามาภายในพระบรมมหาราชวังก็เป็นช่วงที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาพอดี รู้สึกปลาบปลื้มมาก
ส่วน น.ส.พรสินี ลูกสาว เปิดเผยว่า อนาคตอยากเป็นคุณหมอ เพราะอยากช่วยเหลือผู้อื่น เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีใครอยากเป็น หากเราสามารถทำให้ทุกคนไม่ป่วยไข้น่าจะเป็นสิ่งที่ดี อีกทั้งเพราะได้แรงบันดาลใจจากในหลวงรัชกาลที่9 ที่เห็นพระองค์ทรงคอยช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเรื่องความเป็นอยู่และสุขภาพของประชาชน
ด้าน นางเติม นาสวาสดิ์ สมาชิกกลุ่มสตรีหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กลุ่มสมาชิกเดินทางออกจากหัวหินช่วง 4 ทุ่ม มาถึงท้องสนามหลวงประมาณตี 3 เพื่อมาเข้าคิวรอ ดีใจและปลาบปลื้มมากที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ที่เราอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะพระองค์ทรงนำความเจริญไปให้ทั้งสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ทำให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ทางการเกษตร และสร้างถนนเส้นห้วยมงคลทำให้ชาวบ้านเดินทางสะดวกสบายขึ้น ก่อนนี้เป็นถนนดินธรรมดาช่วงในตกจะเดินทางลำบากมาก
ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย
น.ส.ทัชชา บำเรอจิต อายุ 43 ปี รองปลัดเทศบาลคลองแห อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา มาพร้อมลูกสาว น.ส.พรสินี คนสวี อายุ 16 ปี เดินทางมาถึงบริเวณท้องสนามหลวงตั้งแต่เวลา 03.00 น. กล่าวว่า ได้มากราบสักการะพระบรมศพพระองค์ท่านเป็นครั้งที่ 2 ครั้งแรกมาช่วงเดือนพฤศจิกายน มากับลูกคนเล็ก ตอนนั้นการรอเข้าแถวยังต้องเดินวนรอบสนามหลวงไม่มีเก้าอี้ให้นั่ง แต่คราวนี้มีการจัดระเบียบดีขึ้น แบ่งพื้นที่เป็นเต๊นท์ และมีการจัดเก้าอี้ให้ประชาชนนั่งรอ เมื่อได้เข้ามาภายในพระบรมมหาราชวังก็เป็นช่วงที่สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาพอดี รู้สึกปลาบปลื้มมาก
ส่วน น.ส.พรสินี ลูกสาว เปิดเผยว่า อนาคตอยากเป็นคุณหมอ เพราะอยากช่วยเหลือผู้อื่น เพราะการเจ็บไข้ได้ป่วยไม่มีใครอยากเป็น หากเราสามารถทำให้ทุกคนไม่ป่วยไข้น่าจะเป็นสิ่งที่ดี อีกทั้งเพราะได้แรงบันดาลใจจากในหลวงรัชกาลที่9 ที่เห็นพระองค์ทรงคอยช่วยเหลือประชาชนไม่ว่าจะเรื่องความเป็นอยู่และสุขภาพของประชาชน
ด้าน นางเติม นาสวาสดิ์ สมาชิกกลุ่มสตรีหนองพรานพุก ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า กลุ่มสมาชิกเดินทางออกจากหัวหินช่วง 4 ทุ่ม มาถึงท้องสนามหลวงประมาณตี 3 เพื่อมาเข้าคิวรอ ดีใจและปลาบปลื้มมากที่ได้มากราบสักการะพระบรมศพในหลวง ร.9 ที่เราอยู่ได้ทุกวันนี้เพราะพระองค์ทรงนำความเจริญไปให้ทั้งสร้างอ่างเก็บน้ำเขาเต่า ทำให้ชาวบ้านมีน้ำใช้ทางการเกษตร และสร้างถนนเส้นห้วยมงคลทำให้ชาวบ้านเดินทางสะดวกสบายขึ้น ก่อนนี้เป็นถนนดินธรรมดาช่วงในตกจะเดินทางลำบากมาก