xs
xsm
sm
md
lg

พสกนิกรยังหลั่งไหลรอเข้าสักการะพระบรมศพอย่างต่อเนื่อง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วันนี้ 25 (พ.ย.) เป็นวันที่ 28 ที่พระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ได้ตั้งแต่เวลา 08.00-21.00 น. (ยกเว้นช่วงมีพระราชพิธีบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท) โดยมีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดไว้ทุกข์สุภาพเรียบร้อยเดินทางมาต่อคิวเพื่อเข้าสักการะพระบรมศพตั้งแต่เช้ามืด โดยในเวลา 05.00 น. เจ้าหน้าที่สำนักพระราชวังเปิดให้ประชาชนเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี จากนั้นได้เปลี่ยนทางเข้าเป็นทางประตูมณีนพรัตน์ ถนนหน้าพระลาน ในเวลา 08.30 น. เพื่อเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมวัดพระศรีรัตนศาสดารามเข้าทางประตูวิเศษไชยศรี

ทั้งนี้ พสกนิกรที่มากราบสักการะพระบรมศพทุกคนยังคงอยู่ในความโศกเศร้าเสียใจ หลายคนกอดพระบรมฉายาลักษณ์ที่นำมาจากบ้านไว้แนบอกตลอดเวลา และเมื่อได้เข้ากราบถวายสักการะพระบรมศพแล้ว สำนักพระราชวังแจกภาพพระบรมโกศพระบรมศพ พิมพ์ 4 สี ขนาด 5 คูณ 7 นิ้ว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานแก่พสกนิกรทุกคนเก็บไว้เป็นที่ระลึกด้วย

นางมณีรัตน์ โอคุยาม่า อายุ 34 ปี เดินทางมาพร้อมกับน้องสาว น.ส.ดวงหทัย ภูมิภาค อายุ 27 ปี กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าด้วยความอาลัย ว่า ตนแต่งงานกับชาวญี่ปุ่นและเดินทางไปอยู่กับสามีที่ประเทศญี่ปุ่น และเนื่องจากอยากมากราบสักการะพระบรมศพสักครั้ง จึงได้เดินทางกลับประเทศไทยและเดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ตามที่ตั้งใจไว้

"เพราะรักพระบาทสมเด็จพระเจ้าาอยู่หัวรัชกาลที่ 9 มาก จึงเดินทางกลับมากราบสักการะท่านสักครั้ง เพราะพระองค์ท่านรักประชาชน ที่ผ่านมาเห็นท่านทางทีวี เห็นภาพพระองค์ท่านมาตั้งแต่เด็ก ไม่เคยได้มีโอกาสเฝ้าฯ รับเสด็จ ไม่เคยได้ใกล้ชิดเลย แต่ก็ผูกพันในฐานะคนไทยธรรมดาคนหนึ่ง พระองค์ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจมากมาย พระราชดำรัชในโอกาสต่างๆ ของพระองค์สามารถนำมาใช้ได้ ท่านทรงเป็นแบบอย่างในทุกๆ เรื่อง สำหรับตนนั้นได้ยึดหลักความพอเพียง อดทน และความกตัญญู ก็อยากให้คนไทยทุกคนดำเนินตามรอยในหลวงรัชกาลที่ 9 และรักสามัคคีกัน อะไรที่ทำประโยชน์ให้บ้านเมืองแม้จะเพียงเล็กน้อยก็ให้ช่วยกันคิดช่วยกันทำ" นางมณีรัตน์ กล่าว

นางสาวสุจินดา ชัยทอง และนางทัศวรรณ เชื่อเมือง อาจารย์โรงเรียนสวัสรัตนาภิมุข จ.ตรัง เดินทางมาพร้อมเพื่อนครูร่วม 40 คน โดยออกเดินทางจากจังหวัดตรังตั้งแต่ 04.00 น.ของวันที่ 24 พฤศจิกายน และมาพักแรมค้างคืนที่กรุงเทพฯ ก่อนมาเข้าแถวรอประมาณ 03.00 น. เผยว่า เมื่อมาถึงบริเวณสนามหลวงมีคนมาเข้าแถวรอกันเป็นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่ก็ไม่รู้สึกเหนื่อย เพราะตั้งใจอย่างยิ่งที่จะได้มีโอกาสเข้ากราบสักการะพระบรมศพสักครั้งในชีวิต ซึ่งระหว่างต่อแถวอยู่เพื่อนเกิดเป็นลม มีเจ้าหน้าที่เข้ามาให้การดูแลและพาไปที่กองอำนวยการ เรียกว่าให้การบริการประชาชนดีมาก มีการส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ที่ดูแลในแต่ละจุด แต่ก็ไม่ทอดทิ้งจากตั้งแต่ต่อแถวรอจนส่งให้เราได้ขึ้นกราบสักการะเรียบร้อย รู้สึกประทับใจมาก เราเองก็ไม่เสียโอกาส เพราะด้วยสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ทรงงานเพื่อประชาชนมาตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์ท่าน และด้วยประกอบอาชีพครู เป็นข้าราชการเป็นข้าของแผ่นดิน สามารถตอบแทนพระองค์ด้วยการตั้งจิตที่จะทำหน้าที่ของความเป็นครูให้ดีที่สุด มีจรรยาบรรณ เวลาใส่ชุดข้าราชการนับเป็นความภาคภูมิใจอย่างยิ่ง และไม่กล้าที่จะกระทำนอกลู่นอกทางหรือใช้เวลาราชการในการทำธุระส่วนตัว เพราะเราตั้งใจที่จะปฏิบัติหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ทุ่มเทเรื่องการเรียนการสอนเพื่อนักเรียนก่อนประโยชน์ของตน

นายจตุพงษ์-นางปารัตน์ญา ศิริรัตน์ ชาวอ.ชะอำ จ.เพชรบุรี เดินทางจากบ้านพร้อมด้วยลูกสาววัย 5 ขวบ ตั้งแต่เที่ยงคืน กล่าวว่า มาถึงก็ต่อแถวทันทีช่วงก่อน 03.00 น. และได้เข้ากราบตอน 07.30 น. ถือว่าเป็นช่วงเวลารอไม่นานมาก แม้มีลูกน้อยมาด้วยก็ไม่งอแงเลย อีกทั้งเราได้เตรียมตัวมาอย่างดีจากการฟังข่าวทั้งเรื่องของการแต่งกายและการปฏิบัติตัวตามกฎระเบียบเพื่อไม่เป็นการเสียเวลา เพราะตั้งใจอยากมากราบพระองค์เป็นครั้งสุดท้าย โดยพาลูกสาวมาด้วย ซึ่งแม้เขาจะไม่ทันเห็นช่วงที่พระองค์ทรงงานหนัก แต่เราก็ถ่ายทอดเรื่องราวของพระองค์ผ่านการบอกเล่า และดูแอนิเมชั่นเรื่องพระมหาชนก พร้อมสอนเขาเรื่องความเพียรและความอดทนควบคู่ไปด้วย รวมถึงสอนให้เด็กรุ่นใหม่รู้รักสามัคคี รู้จักหน้าที่ของตัวเอง ประหยัดอดออม และมีธรรมะในใจสวดมนต์ก่อนนอนด้วย

ต่อมาเวลา 11.00 น. ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ทรงเป็นประธานถวายภัตตาหารเพลแด่พระพิธีธรรม จำนวน 8 รูป จากพระเชตุพนวิมลมังคลารามราชวรมหาวิหาร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น