ประชาชนจากทั่วทุกสารทิศต่อแถวอย่างเป็นระเบียบ รอเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ในพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท อย่างเนืองแน่น
วันนี้ (20 พ.ย.) เป็นวันที่ 23 ในการพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่เวลา 05.00 - 21.00 น. อันเป็นเวลาที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนขึ้นสักการะพระบรมศพ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศเดินทางมาต่อแถวอย่างเป็นระเบียบเพื่อสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่นอย่างไม่มีท้อถอย บางคนก็มาด้วยรถส่วนตัวกับครอบครัว บ้างก็เหมารถกันมาเป็นหมู่คณะ แต่ไม่ว่าทุกคนจะเดินทางมาด้วยวิธีใดก็ตาม แต่ทุกหัวใจต่างมุ่งตรงยังพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เพื่อให้ได้กราบสักการะพระบรมศพพ่อหลวงมหาราชผู้ยิ่งใหญ่ในใจชาวไทยทั้งประเทศเป็นครั้งสุดท้าย
นายอุดมโชค ชูรัตน์ อายุ 59 ปี ป่วยอัมพาตครึ่งตัว อาจารย์โรงเรียนอาชีวพระมหาไถ่ พัทยา ที่ร่วมเดินทางมากับคนพิการจากมูลนิธิพระมหาไถ่ เพื่อการพัฒนาคนพิการ จ.ชลบุรี กล่าวว่า วันนี้พวกตนมากันประมาณ 35 คน โดยออกเดินทางจาก จ.ชลบุรี เวลา 03.00 น. และมาถึงสนามหลวงเวลา 05.00 น. พวกตนที่เป็นคนพิการต่างซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระองค์ทรงมีน้ำพระทัยช่วยเหลือทุกคนที่ต้องการความช่วยเหลือ โดยเฉพาะคนพิการ ซึ่งพระองค์มีพระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า งานช่วยเหลือคนพิการมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะว่าผู้พิการไม่ได้อยากจะเป็นผู้พิการ และอยากช่วยเหลือตนเอง เราต้องช่วยเขาให้ช่วยเหลือตนเองได้ ซึ่งตนก็ใช้ความรู้และความสามารถที่ตนมีไปช่วยเหลือคนอื่นตามพระราชดำรัสของพระองค์
นายอุดมโชค กล่าวต่อว่า ตนติดตามข่าวที่พระองค์เสด็จพระราชดำเนินไปปฏิบัติพระราชกรณียกิจตามสถานที่ต่างๆ ตนเคยคิดน้อยใจว่า เราอยู่ภาคกลางก็อยากจะได้เฝ้ารับเสด็จฯ บ่อยๆ บ้าง แต่พระองค์จะเสด็จพระราชดำเนินไปภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หรือตามถิ่นทุรกันดารบ่อยมาก พอมาคิดอีกทีก็เข้าใจว่ายังมีคนที่ต้องการความช่วยเหลือมากกว่าเราอยู่อีกจำนวนมาก พระองค์ทรงงานหนักเพื่อประชาชนมาโดยตลอด
“ผมดีใจมากที่ได้มาสักการะพระบรมศพ แม้จะรู้สึกเสียดายที่ไม่ได้ขึ้นไปสักการะพระบรมศพบนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท แต่อย่างน้อยก็ได้รับการอำนวยความสะดวกให้เข้าไปกราบสักการะพระบรมฉายาลักษณ์ด้านล่างพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ผมได้อธิษฐานขอให้พระองค์เสด็จสู่สวรรคาลัย จากนี้จะทำตามที่พระองค์ได้พระราชทานคำสอนไว้ ซึ่งผมเป็นครูก็จะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด” นายอุดมโชค กล่าว
ด้านสำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 20 พ.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 23.30 น. จากเดิมที่กำหนดในเวลา 21.00 น. เนื่องจากมีประชาชนต่อแถวรอเข้าสักการะที่บริเวณมณฑลพิธีท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 40,023 คน รวม 23 วัน มี 715,808 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 3,289,303.50 บาท รวม 23 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 51,398,900 บาท
