พสกนิกรไทย-ต่างชาติทั่วทุกสารทิศ สวมชุดดำไว้ทุกข์มาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น

เหล่าพสกนิกรทุกเพศวัย ทั้งชาวไทย และชาวต่างชาติ ที่อาศัยในประเทศไทย เดินทางมาสนามหลวง เพื่อแสดงความจงรักภักดี และแสดงความอาลัย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช เป็นวันที่ 21

วันนี้ (18 พ.ย.) เป็นวันที่ 21 ในการพระราชทานพระราชานุญาตให้ประชาชนเข้าถวายสักการะพระบรมศพ เบื้องหน้าพระบรมโกศ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ตั้งแต่เวลา 05.00 -21.00 น. ที่สำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชนขึ้นสักการะพระบรมศพ โดยตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา มีประชาชนจากทั่วทุกสารทิศสวมชุดดำไว้ทุกข์ เดินทางมาสักการะพระบรมศพอย่างเนืองแน่น ถึงแม้จะเจอสภาพอากาศที่ร้อนอบอ้าว แต่อุปสรรคเหล่านี้มิได้เป็นอุปสรรคขวากหนามเลยแม้แต่น้อย หากกลับแปรเปลี่ยนอุปสรรคเหล่านั้นเป็นพลังแห่งความภักดี

ด้าน นางสาวเบ็ญจนี บุญช่วย อายุ 26 ปี ชาวจังหวัดระยอง และ นางสาวชลิดา สุวรรณนาคร อายุ 28 ปี ชาวจังหวัดชลบุรี เพื่อนร่วมงานที่เดินทางจากที่ทำงานในจังหวัดระยอง พร้อมครอบครัว มาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน แล้วมาเข้าแถวร่วมกับประชาชนอื่นๆ ตอนตี 4 และได้เข้ากราบสักการะพระบรมศพ ประมาณเวลา 08.00 น. ทั้งคู่เล่าพร้อมน้ำตาที่ไหลเอ่อ ว่า ตั้งใจจะมานานแล้ว แต่ยังนัดแนะกันไม่ลงตัว วันนี้รู้สึกดีใจที่ได้กราบพระบรมศพในหลวงครั้งหนึ่งในชีวิต ถ้าถามว่ารักพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ แค่ไหน บอกได้เพียงรักมาก ท่านทรงเป็นกษัตริย์ที่ทรงพระปรีชาสามารถ และรักพสกนิกรทุกคนอย่างเท่าเทียม จึงอยากเดินตามรอยพระองค์ พร้อมกับน้อมนำสิ่งที่ทรงสอนสั่งมาใช้เป็นหลักในการดำเนินชีวิต อย่างเรื่องการทำงานก็ต้องทำด้วยความเต็มใจ ให้สุดความสามารถ ซึ่งตอนใช้ชีวิตอยู่ที่จังหวัดนราธิวาส มีโอกาสได้รอรับเสด็จฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ที่เสด็จฯพร้อมด้วย สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แม้จะเพียงแค่อยู่ริมทางแล้วขบวนเสด็จฯเคลื่อนผ่านก็ตื้นตันใจแล้ว น้ำตาไหลออกมาโดยไม่รู้ตัว มาวันนี้ไม่มีพระองค์ท่านแล้ว ใจหายแบบบอกไม่ถูก สำหรับใครที่ยังไม่มีโอกาสมาอยากให้เตรียมตัวให้พร้อม โดยเฉพาะเรื่องเครื่องแต่งกายต้องให้เหมาะสมเพื่อเป็นการถวายพระเกียรติพระองค์ท่าน

ด้าน นายดาว่า เชอริ่ง มัคกุเทศก์ชาวภูฏาน วัย 31 ปี ใส่ชุดประจำชาติที่เรียกว่า “โก (GHO)” มีความตั้งใจจะมาถวายสักการะพระบรมศพสักครั้งหนึ่งในชีวิต ด้วยความเคารพและศรัทธาในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช จึงชักชวนแฟนสาวชาวไทย นางสาวปรารถนา สมชะนะ แอร์โฮสเตสสายการบินกาตาร์แอร์เวย์ วัย 40 ปี บินตรงจากประเทศภูฏาน มาถวายสักการะพระบรมศพ ณ พระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท เปิดเผยว่า มาต่อแถวเหมือนกับประชาชนคนไทย ตั้งแต่ตี 3 จึงได้เห็นความจงรักภักดีของคนไทย ที่ตั้งใจมาถวายสักการะโดยไม่ย่อท้อ รู้สึกภาคภูมิใจแทนคนไทยที่มีพระมหากษัตริย์ที่ยิ่งใหญ่ ซึ่งพวกเราชาวภูฏานรักและเคารพในหลวง รัชกาลที่ ๙ มาก

ด้าน นายมด โชติชนาวดี อายุ 34 ปี อาชีพธุรกิจส่วนตัว และ นายราช กุ มาร์ อายุ 27 ปี ชาวพม่า อาชีพธุรกิจส่วนตัว เดินทางจาก อำเภอกระทู้ ตำบลป่าตอง จังหวัดภูเก็ต โดยเข้าคิวตั้งแต่ตี 2 และได้เข้าสักการะพระบรมศพตอน 09.00 น. นายมด เปิดเผยด้วยสีหน้าเศร้า ว่า เราตั้งใจมาสักการะพระบรมศพในหลวง รัชกาลที่ ๙ ด้วยความรักที่มีต่อพระองค์ท่าน หากถามว่าทำไมถึงรักพระองค์ท่าน คงตอบไม่ได้ เพราะมันล้นออกมาจากใจ สิ่งที่พระองค์ท่านทำนั้นกว้างมาก หากเปรียบเทียบคงเป็นเหมือนตั้งแต่ ก-ฮ ซึ่งมากมายเหลือเกิน

ขณะที่ นายราช กุ มาร์ ชาวพม่า เปิดเผยว่า ตนอยู่ประเทศไทยมา 9 ปีแล้ว เมื่อตอนในหลวง รัชกาลที่ ๙ เสด็จสวรรคต รับรู้ถึงความรู้สึกของคนไทยได้ทันที จึงตั้งใจเดินทางมาเข้าสักการะพระบรมศพในวันนี้ และรู้สึกเศร้าและเสียใจเช่นกัน

ด้านสำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชน ที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ เมื่อวันที่ 18 พ.ย. หลังสำนักพระราชวัง ปิดไม่ไห้ประชาชนเข้าพระบรมมหาราชวัง เพื่อขึ้นกราบสักการะพระบรมศพสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บนพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ในเวลา 21.00 น. ว่า มีจำนวนทั้งสิ้น 36,240 คน รวม 21 วัน มี 635,048 คน และมีประชาชนถวายเงินเพื่อร่วมบำเพ็ญพระราชกุศลเป็นเงิน 2,534,846.75 บาท รวม 21 วัน เป็นเงินทั้งสิ้น 45,162,137.75 บาท