เมื่อเวลา 09.38 น. วันที่ 25 พ.ย. 59 พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ เสด็จมายังประตูวิเศษไชยศรี พระบรมมหาราชวัง เพื่อประทานผ้าถุงจำนวน 3000 ชุด ถุงใส่รองเท้าจำนวน 3000 ชุด และเข็มกลัดโบว์สีดำประดับเหรียญประเภทต่างๆ อาทิ 25 สตางค์ 50 สตางค์ และ 1 บาท พร้อมมีป้ายติดด้านหลังมีข้อความว่า ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๙ จำนวน 5000 ชิ้น ให้แก่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำไว้ไปบริการให้ประชาชนยืมเข้าสักการะพระบรมศพ
การนี้ เสด็จไปยังเต็นท์พักคอยของประชาชนที่รอเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าพระธาตุ เพื่อประทานเข็มกลัดโบว์แก่ประชาชนด้วยพระองค์เองจนครบทุกเต็นท์ ยาวไปถึงบริเวณหน้ากรมศิลปากร จนสุดวัดพระมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วรมหาวิหาร
จากนั้น ประทับรถกอล์ฟพระที่นั่งไปยังจุดเปลี่ยนผ้าถุงของกรุงเทพมหานคร ในสนามหลวง บริเวณตรงข้ามศาลฎีกา พร้อมทอดพระเนตร และมีพระปฏิสันถารกับประชาชนที่มาใช้บริการยืมผ้าถุงในเต็นท์ พร้อมรับสั่งชื่นชมผู้ที่ใช้บริการยืมผ้าถุงว่า "สวยมาก" สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น
ต่อมาประทับรถกอล์ฟไปยังประตูเทวาภิรมย์ ซึ่งเป็นจุดคืนผ้าถุง และเสด็จกลับมายังประตูวิเศษไชยศรีและประทานเข็มกลัดให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากที่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานผ้าถุงดำทรงออกแบบให้แก่ประชาชนยืมใส่อย่างถูกต้องตามจารีต เข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน กระทั่งวันนี้ นับเป็นเวลา 10 วันแล้ว มีประชาชนเข้ามายืมทั้งหมด 5,212 ผืน มีประชาชนที่ไม่ได้คืนผ้าถุงจำนวน 9 ผืน โดยมีคนกรุงเทพฯ ยืมมากที่สุด ตามด้วยประชาชนจากปริมณฑลอย่างนนทบุรี และสมุทรปราการ เป็นต้น ส่วนประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดส่วนใหญ่ล้วนแต่งการเรียบร้อยดีมาก ต้องขอชื่นชม
"พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มีรับสั่งว่า อยากให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ได้เข้ากราบสักการะทุกคน หากแต่กายไม่เรียบร้อย กลัวเขาไม่ได้เข้า และอยากให้มีการจัดระบบยืม-คืน แต่ถ้าเขาไม่คืนก็ไม่เป็นไร เราจะนำมาเพิ่มอีก" น.ส.ปราณี เปิดเผย
ขณะที่นายธวัชชัย พุฒศรี อายุ 38 ปี อาชีพเกษตรกร จากหมู่บ้านสนามแย้ ต.สนามสนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากได้รับเข็มกลัดประทานจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ขณะนั่งรอเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ว่ารู้สึกปลาบปลื้มใจมาก ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ใกล้ชิด ไม่เคยรับเสด็จพระองค์ท่านมาก่อน วันนี้เดินทางพร้อมครอบครับและเพื่อนบ้านรวม 30 คนเหมารถตู้มาจากบ้านตอนเที่ยงคืน มาถึงกรุงเทพฯ เวลาตี 2 ตั้งใจมากราบพระบรมศพในหลวงครั้งหนึ่งในชีวิต ที่บ้านทำนาปลูกข้าว และทำไร่อ้อย โดยน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อดทน มีคุณธรรม มาใช้ในการทำงานและดำเนินชีวิต
การนี้ เสด็จไปยังเต็นท์พักคอยของประชาชนที่รอเข้าสักการะพระบรมศพเบื้องหน้าพระบรมโกศ ซึ่งตั้งอยู่บริเวณถนนหน้าพระธาตุ เพื่อประทานเข็มกลัดโบว์แก่ประชาชนด้วยพระองค์เองจนครบทุกเต็นท์ ยาวไปถึงบริเวณหน้ากรมศิลปากร จนสุดวัดพระมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ วรมหาวิหาร
จากนั้น ประทับรถกอล์ฟพระที่นั่งไปยังจุดเปลี่ยนผ้าถุงของกรุงเทพมหานคร ในสนามหลวง บริเวณตรงข้ามศาลฎีกา พร้อมทอดพระเนตร และมีพระปฏิสันถารกับประชาชนที่มาใช้บริการยืมผ้าถุงในเต็นท์ พร้อมรับสั่งชื่นชมผู้ที่ใช้บริการยืมผ้าถุงว่า "สวยมาก" สร้างความปลื้มปีติให้แก่พสกนิกรเป็นล้นพ้น
ต่อมาประทับรถกอล์ฟไปยังประตูเทวาภิรมย์ ซึ่งเป็นจุดคืนผ้าถุง และเสด็จกลับมายังประตูวิเศษไชยศรีและประทานเข็มกลัดให้กับประชาชน นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน
น.ส.ปราณี สัตยประกอบ ผู้อำนวยการสำนักวัฒนธรรมกีฬาและการท่องเที่ยว กรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่า จากที่พระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ ประทานผ้าถุงดำทรงออกแบบให้แก่ประชาชนยืมใส่อย่างถูกต้องตามจารีต เข้ากราบสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ตั้งแต่เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน กระทั่งวันนี้ นับเป็นเวลา 10 วันแล้ว มีประชาชนเข้ามายืมทั้งหมด 5,212 ผืน มีประชาชนที่ไม่ได้คืนผ้าถุงจำนวน 9 ผืน โดยมีคนกรุงเทพฯ ยืมมากที่สุด ตามด้วยประชาชนจากปริมณฑลอย่างนนทบุรี และสมุทรปราการ เป็นต้น ส่วนประชาชนที่มาจากต่างจังหวัดส่วนใหญ่ล้วนแต่งการเรียบร้อยดีมาก ต้องขอชื่นชม
"พระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ มีรับสั่งว่า อยากให้ประชาชนที่เดินทางมากราบสักการะพระบรมศพ ได้เข้ากราบสักการะทุกคน หากแต่กายไม่เรียบร้อย กลัวเขาไม่ได้เข้า และอยากให้มีการจัดระบบยืม-คืน แต่ถ้าเขาไม่คืนก็ไม่เป็นไร เราจะนำมาเพิ่มอีก" น.ส.ปราณี เปิดเผย
ขณะที่นายธวัชชัย พุฒศรี อายุ 38 ปี อาชีพเกษตรกร จากหมู่บ้านสนามแย้ ต.สนามสนามแย้ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี กล่าวถึงความรู้สึกหลังจากได้รับเข็มกลัดประทานจากพระเจ้าหลานเธอพระองค์เจ้าสิริวัณณวรีนารีรัตน์ขณะนั่งรอเข้ากราบสักการะพระบรมศพ ว่ารู้สึกปลาบปลื้มใจมาก ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้ใกล้ชิด ไม่เคยรับเสด็จพระองค์ท่านมาก่อน วันนี้เดินทางพร้อมครอบครับและเพื่อนบ้านรวม 30 คนเหมารถตู้มาจากบ้านตอนเที่ยงคืน มาถึงกรุงเทพฯ เวลาตี 2 ตั้งใจมากราบพระบรมศพในหลวงครั้งหนึ่งในชีวิต ที่บ้านทำนาปลูกข้าว และทำไร่อ้อย โดยน้อมนำพระราชดำรัสของในหลวงเรื่องการทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต อดทน มีคุณธรรม มาใช้ในการทำงานและดำเนินชีวิต