พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ได้ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมลุ่มน้ำเพชรบุรีโดยใกล้ชิด และสั่งการให้กรมชลประทานประสานงานในพื้นที่ร่วมกับฝ่ายทหารเตรียมการแก้ไขปัญหาอย่างครบถ้วน ในส่วนคันกั้นน้ำที่มณฑลทหารบกที่ 15 (มทบ.15) ที่ทรุดตัว ได้เร่งซ่อมแซม เสร็จตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา พร้อมกับสำรวจเสริมคันกั้นน้ำในจุดที่ไม่แข็งแรง และ อุดท่อระบายน้ำต่างๆ ไม่ให้น้ำไหลย้อนจากแม่น้ำเพชรบุรีเข้าท่วมเมือง ให้เร่งผลักดันน้ำโดยเร็ว ซึ่งกรมชลประทานจัดส่งเครื่องผลักดันน้ำเพิ่มเติมเข้าไป รวมเป็น 8 เครื่อง ติดตั้งในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณวัดเขาตะเครา เดินหน้าผลักดันน้ำเต็มกำลัง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในช่วงน้ำทะเลที่หนุนสูงขึ้น และ ฝนที่ตกหนักทำให้เขื่อนแม่ประจันต์ ต้องระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น น้ำไหลมาที่เขื่อนเพชรมากขึ้น ซึ่งเขื่อนเพชรเป็นเขื่อนทดน้ำ จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจาก 213 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ต่อวินาที เป็น 228 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำในแม่น้ำเพชรบุรีสูงขึ้น โดยที่คันกั้นน้ำที่มีอยู่ยังไม่มีส่วนใดชำรุดเพิ่มหรือน้ำไหลข้าม ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำในเมืองเพชรบุรีสูงขึ้นประมาณ 5 เซนติเมตร จากเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากคันกั้นน้ำบริเวณ มทบ.15 ที่ซ่อมเสร็จ มีรอยรั่วจากกระสอบทราย ทำให้มีน้ำซึมผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่วม โดยกรมชลประทานจะเร่งสูบน้ำอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าน้ำทะเลหนุนจะลดลง น้ำในพื้นที่ อ.เมือง จะลดต่ำกว่าตลิ่งในคืนนี้
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตนสั่งการเพิ่มเติมให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงไปพบปะเกษตรกรที่ประสบปัญหาบรรเทาทุกข์ ให้กำลังใจ แนะนำช่วยเหลือ ส่วนการรับมือน้ำท่วมนั้นให้ติดตามสภาพอากาศ แนวโน้มฝนที่ลงใต้ต่อไป โดยตรวจคันกั้นน้ำให้มีความแข็งแรง จุดที่อ่อนต้องซ่อมให้เรียบร้อยก่อนน้ำมาในปีหน้าและปีต่อไป ช่วงก่อนฝนมาต้องทำเป็นปฏิทินประจำปี คือสำรวจก่อนฤดูฝน ซ่อมให้เสร็จก่อนน้ำหลาก การระบายน้ำหลากให้ระดมเครื่องมือ ทำให้น้ำลดลงโดยเร็ว ทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์ คาดการณ์ไปข้างหน้า เตรียมการแก้ปัญหา ระดมสรรพกำลัง ทำงานร่วมกัน ทำให้บรรเทาปัญหาได้มากซึ่งทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของเราเช่นกัน
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้อยู่ในช่วงน้ำทะเลที่หนุนสูงขึ้น และ ฝนที่ตกหนักทำให้เขื่อนแม่ประจันต์ ต้องระบายน้ำเพิ่มมากขึ้น น้ำไหลมาที่เขื่อนเพชรมากขึ้น ซึ่งเขื่อนเพชรเป็นเขื่อนทดน้ำ จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำจาก 213 ลูกบาศก์เมตร(ลบ.ม.) ต่อวินาที เป็น 228 ลบ.ม.ต่อวินาที ทำให้น้ำในแม่น้ำเพชรบุรีสูงขึ้น โดยที่คันกั้นน้ำที่มีอยู่ยังไม่มีส่วนใดชำรุดเพิ่มหรือน้ำไหลข้าม ส่วนสาเหตุที่ทำให้น้ำในเมืองเพชรบุรีสูงขึ้นประมาณ 5 เซนติเมตร จากเมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากคันกั้นน้ำบริเวณ มทบ.15 ที่ซ่อมเสร็จ มีรอยรั่วจากกระสอบทราย ทำให้มีน้ำซึมผ่านเข้ามาในพื้นที่ท่วม โดยกรมชลประทานจะเร่งสูบน้ำอย่างเต็มที่ ซึ่งคาดว่าน้ำทะเลหนุนจะลดลง น้ำในพื้นที่ อ.เมือง จะลดต่ำกว่าตลิ่งในคืนนี้
พล.อ.ฉัตรชัย กล่าวอีกว่า ขณะเดียวกันตนสั่งการเพิ่มเติมให้ข้าราชการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ลงไปพบปะเกษตรกรที่ประสบปัญหาบรรเทาทุกข์ ให้กำลังใจ แนะนำช่วยเหลือ ส่วนการรับมือน้ำท่วมนั้นให้ติดตามสภาพอากาศ แนวโน้มฝนที่ลงใต้ต่อไป โดยตรวจคันกั้นน้ำให้มีความแข็งแรง จุดที่อ่อนต้องซ่อมให้เรียบร้อยก่อนน้ำมาในปีหน้าและปีต่อไป ช่วงก่อนฝนมาต้องทำเป็นปฏิทินประจำปี คือสำรวจก่อนฤดูฝน ซ่อมให้เสร็จก่อนน้ำหลาก การระบายน้ำหลากให้ระดมเครื่องมือ ทำให้น้ำลดลงโดยเร็ว ทุกฝ่ายต้องติดตามสถานการณ์ คาดการณ์ไปข้างหน้า เตรียมการแก้ปัญหา ระดมสรรพกำลัง ทำงานร่วมกัน ทำให้บรรเทาปัญหาได้มากซึ่งทุกข์ของประชาชนคือทุกข์ของเราเช่นกัน