พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ยืนยันว่า คณะเดินทางของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ไปประชุมที่ฮาวายมี 38 คน และมีขอกลับเพิ่มอีก 3 คน รวมเป็น 41 คน พร้อมปฏิเสธไม่มีนางสาวชลรัศมี งาทวีสุข ที่ปรากฎรายชื่อลำดับที่ 20 เดินทางไปด้วย
การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการไปกระชับความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐอเมริกา ที่มีข้อจำกัดมาตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 จึงใช้โอกาสนี้ไปทำความเข้าใจ สร้างความรับรู้ เพื่อให้สหรัฐอเมริกาเห็นความตั้งใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ของไทย ทั้งปัญหาการค้ามนุษย์ การบินพลเรือน การประมงผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นผลประโยชน์ของชาติ โดยรัฐบาลพยายามแก้ปัญหา ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้ว และสหรัฐฯ เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของไทย
พล.ต.คงชีพ กล่าวด้วยว่า การทำงานด้านความมั่นคง หากวัดทางเชิงพาณิชย์คงตอบไม่ได้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะคุ้มหรือไม่ เพราะงานความมั่นคงมีหน้าที่ทำให้มิติต่างประเทศ ไม่มีภัยคุกคาม เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างประเทศ
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัจจุบันสังคมมีการเปิดกว้าง และกระทรวงกลาโหมกำลังปรับปรุงให้เป็น กระทรวงโปร่งใส ทุกคนต่างทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ คงไม่โทษใคร และคงไม่ทำให้ภาพลักษณ์กระทรวงเสื่อมเสีย
การเดินทางไปครั้งนี้เป็นการไปกระชับความสัมพันธ์ไทยกับสหรัฐอเมริกา ที่มีข้อจำกัดมาตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม 2557 จึงใช้โอกาสนี้ไปทำความเข้าใจ สร้างความรับรู้ เพื่อให้สหรัฐอเมริกาเห็นความตั้งใจในการแก้ปัญหาต่างๆ ของไทย ทั้งปัญหาการค้ามนุษย์ การบินพลเรือน การประมงผิดกฎหมาย ถือว่าเป็นผลประโยชน์ของชาติ โดยรัฐบาลพยายามแก้ปัญหา ซึ่งคืบหน้าไปมากแล้ว และสหรัฐฯ เห็นถึงความตั้งใจในการทำงานของไทย
พล.ต.คงชีพ กล่าวด้วยว่า การทำงานด้านความมั่นคง หากวัดทางเชิงพาณิชย์คงตอบไม่ได้ว่าการเดินทางครั้งนี้จะคุ้มหรือไม่ เพราะงานความมั่นคงมีหน้าที่ทำให้มิติต่างประเทศ ไม่มีภัยคุกคาม เกิดความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันระหว่างประเทศ
โฆษกกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า กรณีที่เกิดขึ้นมองว่าเป็นเรื่องที่ดี เพราะปัจจุบันสังคมมีการเปิดกว้าง และกระทรวงกลาโหมกำลังปรับปรุงให้เป็น กระทรวงโปร่งใส ทุกคนต่างทำงานเพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติ คงไม่โทษใคร และคงไม่ทำให้ภาพลักษณ์กระทรวงเสื่อมเสีย