โฆษกกลาโหมยันทริปฮาวายบินไป 38 คน ขากลับเพิ่มอีก 3 ทุกคนไปปฏิบัติราชการ ถกผลประโยชน์ชาติ ชี้งานมั่นคงไม่ได้วัดกำไรขาดทุน ลั่นผู้ประกาศช่อง 5-ผู้บริหารซีพีไม่ได้ร่วมทริป แต่มีคนเข้ามาช่วยงาน ชี้ทุกคนอยู่ใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ข้อมูลโซเชียลฯ บิดเบือนสูง ขอสื่ออย่านำเสนอ
วันนี้ (5 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงกรณีเอกสารรายชื่อผู้ร่วมเดินทางไปประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน-สหรัฐฯ ที่มลรัฐฮาวาย ว่าเอกสารที่มีการเผยแพร่เท็จจริงอย่างไรตนไม่ทราบ แต่ยืนยันว่าคณะดังกล่าวเดินทางไป 38 คน และเดินทางกลับเพิ่มมาอีก 3 คน ซึ่งเป็นส่วนล่วงหน้า รวมแล้วเป็น 41 คน ทุกคนเดินทางไปปฏิบัติราชการ และที่ต้องเดินทางไปหลายคนนั้นเพราะตั้งแต่ คสช.เข้ามาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีข้อจำกัดอยู่ เราจึงใช้โอกาสทุกเวที เพื่อสร้างความเข้าใจ และสหรัฐเห็นความตั้งใจในการแก้ปัญหาทั้งเรื่องปัญหาการค้ามนุษย์ การปรับมาตรฐานการบินพลเรือน ที่มีพัฒนาตามลำดับ รวมถึงการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญที่เขายอมรับว่าเป็นการทำประชามติที่ตรงไปตรงมา โดยเรื่องเหล่านี้คือผลประโยชน์ของประเทศนับล้านล้านบาท หากไม่แก้ไขจะส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจ
“คนที่ร่วมคณะหากคนไหนไม่ได้เข้าประชุมก็จะช่วยเสริมข้อมูลให้ผู้เข้าร่วมประชุม และถ้าจะถามว่าคุ้มค่าหรือไม่นั้น ผมก็ไม่สามารถตอบได้ เพราะงานด้านความมั่นคงไม่ได้วัดเรื่องกำไรหรือขาดทุน เรามีหน้าที่ให้มิติต่างประเทศไม่มีภัยคุกคาม สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ ความร่วมมือระหว่างกัน ซึ่งพัฒนาการเรื่องการต่างประเทศมีพัฒนาการที่ดี และคนที่รอบล้อม พล.อ.ประวิตร ซึ่งมีรูปใส่เสื้อฮาวาย ทั้งดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมของอาเซียน ท่านก็เหมือนพี่ใหญ่ตัวจริงของอาเซียน เพราะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมสมัยที่ 2 ต้องขอให้เข้าใจ เราพร้อมสร้างความสัมพันธ์ แต่ไม่พร้อมชักศึกเข้าบ้าน” พล.อ.ประวิตรกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เอกสารที่มีการเผยแพร่ปรากฏชื่อ พ.ต.หญิง ชลรัศมี งาทวีสุข ผู้ประกาศข่าวช่อง 5 ร่วมคณะด้วย มีข้อเท็จจริงอย่างไร พล.ต.คงชีพกล่าวว่า “ไม่ได้เดินทางไปด้วย ผมไม่ทราบรายชื่อตามที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลฯ แต่เขาไม่ได้ร่วมเดินทางไปด้วย ผมไม่ได้พูดโกหก และข้อมูลในโซเชียลฯ เมื่อเห็นแล้วก็ต้องวิเคราะห์ข้อมูล ส่วนคำถามที่ว่ามีเกลือเป็นหนอนหรือไม่ ถือเป็นเรื่องที่ดีเพราะเราอยู่ในยุคสังคมข่าวสาร มาปิดกันไม่ได้ เราเปิดกว้างเพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการทำงาน เราไม่หวาดระแวงใคร ต่างคนต่างก็ทำงานเพื่อประเทศ ผลประโยชน์ของชาติเป็นตัวตั้ง”
เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบเอกสารที่เผยแพร่ว่าเป็นเอกสารจริงหรือไม่ หากไม่ใช่เอกสารจริงจะดำเนินคดีหรือไม่ พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ทุกคนอยู่ภายใต้ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ หากกล่าวร้ายคนอื่นก็จะผิดฐานหมิ่นประมาท ถ้าโพสต์ข้อความไม่ถูกต้องมี พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์กำกับอยู่ ต้องรอดูว่าคนที่ได้รับผลกระทบจะฟ้องกลับหรือไม่ องค์กรเสียหายได้รับผลกระทบหรือไม่ ถ้าได้รับผลกระทบต้องดำเนินการตามกฎหมาย
“ตอนนี้กระทรวงกลาโหมไม่คิดว่าได้รับผลกระทบ และในโลกโซเชียลฯ มีการบิดเบือนสูงก็ขออย่าจับมานำเสนอ เพราะจะกระทบกับสื่อของท่านเองด้วย วันนี้ผมอยากให้จบเรื่องนี้ ถ้าไม่จบก็พูดกันไม่จบ อะไรที่ยังสงสัยขอให้ถาม หากมาถามรายวันผมขอไม่ตอบแล้ว ตอนนี้ก็เป็นไข้แล้ว” พล.ต.คงชีพกล่าว
เมื่อถามว่า รายชื่อที่เปิดเผยมามีชื่อผู้บริหารของบริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ ร่วมเดินทางไปด้วย พล.ต.คงชีพกล่าวว่า ไม่มีผู้บริหารซีพีร่วมเดินทางไปด้วย แต่มีผู้ประสานงานความมั่นคง ด้านเศรษฐกิจ เข้ามาช่วยงาน พล.อ.ประวิตร ร่วมเดินทางไปด้วย และทั้ง 2 คนไม่ใช่ข้าราชการ แต่เป็นผู้ที่เข้ามาช่วยงานซึ่งความมั่นคงเกี่ยวโยงทุกเรื่อง