นายละม้าย เสนขวัญแก้ว ประธานคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร กองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร เปิดเผยว่า อยู่ระหว่างเร่งดำเนินการโอนเงินงบประมาณเพื่อการจัดการหนี้ให้กับสำนักงานสาขา 77 จังหวัดทั่วประเทศ จังหวัดละ 4 ล้านบาท รวมงบประมาณทั้งสิ้น 308 ล้านบาท ทั้งนี้ เพื่อเป็นการกระจายอำนาจการจัดการหนี้ไปยังสำนักงานสาขาเป็นผู้พิจารณาและดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกร โดยเฉพาะหนี้สถาบันเกษตรกร (สหกรณ์) ซึ่งสอดคล้องกับข้อบังคับของสำนักงานกองทุนฟื้นฟูฯที่ระบุว่า กรณีหนี้ไม่เกิน 5 แสนบาท ให้สำนักงานสาขาจังหวัดเป็นผู้พิจารณาและดำเนินการชำระหนี้แทนเกษตรกร โดยเงื่อนไขการจัดการหนี้ภายใต้งบประมาณดังกล่าวจะต้องเป็นหนี้วัตถุประสงค์เพื่อการเกษตรกร เป็นหนี้ที่มีหลักทรัพย์ค้ำประกันและเป็นหนี้เร่งด่วน ซึ่งได้สั่งการให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ 20 กันยายนนี้
ประธานคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร กล่าวยืนยันว่า การจัดการหนี้ของเกษตรกรยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ได้มีการหยุดรับซื้อหนี้ตามที่มีกระแสข่าวไปก่อนหน้า ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 ที่สำนักงบประมาณอนุมัติงบจัดการหนี้จำนวน 271 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการจะกำหนดระเบียบการจัดการหนี้ตามข้อสรุปที่ได้จากการสัมมนาและศึกษาดูงานการฟื้นฟูเกษตรกรหลังการจัดการหนี้ 4 ภาคทั่วประเทศ ซึ่งมีต้นแบบความสำเร็จของเกษตรกรเป็นจำนวนมาก เพื่อสอดคล้องกับแนวทางของคณะกรรมการจัดการหนี้ชุดปัจจุบันในเรื่อง 'การฟื้นฟูเกษตรกรเท่ากับการฟื้นประเทศ' โดยถือว่า การฟื้นฟูอาชีพเป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่การดูแลหนี้เป็นเป้าหมายรอง
ขณะที่โครงการแก้ปัญหาหนี้เร่งด่วนให้เกษตรกรสมาชิก กฟก. วงเงิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจัดการหนี้และคณะกรรมการบริหารแล้ว ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้การจัดการหนี้ก้อนนี้ถูกต้องตามขอสังเกตของ สตง.
ประธานคณะกรรมการจัดการหนี้ของเกษตรกร กล่าวยืนยันว่า การจัดการหนี้ของเกษตรกรยังคงดำเนินการต่อเนื่อง ไม่ได้มีการหยุดรับซื้อหนี้ตามที่มีกระแสข่าวไปก่อนหน้า ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 ที่สำนักงบประมาณอนุมัติงบจัดการหนี้จำนวน 271 ล้านบาทนั้น คณะกรรมการจะกำหนดระเบียบการจัดการหนี้ตามข้อสรุปที่ได้จากการสัมมนาและศึกษาดูงานการฟื้นฟูเกษตรกรหลังการจัดการหนี้ 4 ภาคทั่วประเทศ ซึ่งมีต้นแบบความสำเร็จของเกษตรกรเป็นจำนวนมาก เพื่อสอดคล้องกับแนวทางของคณะกรรมการจัดการหนี้ชุดปัจจุบันในเรื่อง 'การฟื้นฟูเกษตรกรเท่ากับการฟื้นประเทศ' โดยถือว่า การฟื้นฟูอาชีพเป็นเป้าหมายหลัก ขณะที่การดูแลหนี้เป็นเป้าหมายรอง
ขณะที่โครงการแก้ปัญหาหนี้เร่งด่วนให้เกษตรกรสมาชิก กฟก. วงเงิน 3,000 ล้านบาท ซึ่งผ่านการพิจารณาจากคณะกรรมการจัดการหนี้และคณะกรรมการบริหารแล้ว ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาร่วมกับสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อให้การจัดการหนี้ก้อนนี้ถูกต้องตามขอสังเกตของ สตง.
