พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หลังจากมีคำสั่ง คสช.ตามมาตรา 44 ในการเร่งรัดเจรจาเพื่อคัดเลือกบริษัทเอกชนเข้ามาบริหารการเดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง - บางแค และบางซื่อ - ท่าพระ รวมทั้งการเชื่อมต่อ 1 สถานีระหว่างสถานีบางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) กับสถานีเตาปูน (สายสีม่วง) นั้น ขณะนี้คณะกรรมการ รฟม.ได้กำหนดหลักเกณฑ์ส่วนแบ่งรายได้ค่าโดยสาร และการเชื่อมต่อรถไฟฟ้า 1 สถานี และรับฟังความเห็นของ สศช. สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) และกรรมการป้องกันการทุจริต เพื่อเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว
จากนี้ไปคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน และคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จะกำหนดกรอบเวลาวางระบบเดินรถและเชื่อมต่อ 1 สถานี และเจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อให้เข้ามาบริหารการเดินรถส่วนต่อขยาย เชื่อมต่อโครงข่ายให้เป็นระบบเดียวกัน ภายในเวลาไม่เกิน 60 วัน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้เร่งรัดทุกขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยคำนึงถึงความสะดวกของประชาชนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขเรื่องการเชื่อมต่อ 1 สถานี แม้ปัญหาจะมาจากการทำสัญญาเดิมก่อนรัฐบาลนี้ก็ตาม จึงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูทั้งเรื่องกฎหมายและการเจรจากับเอกชน เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และคุ้มค่าที่สุด
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่า จากนี้ไปผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกโครงการ ควรเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยจะต้องวางแผนทำงานให้เป็นระบบ มองทุกเรื่องอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง แม้จะแยกสัญญาก็ตาม รวมทั้งฝากให้พี่น้องประชาชน รัฐวิสาหกิจ และสหภาพแรงงาน ร่วมติดตามการทำงานของรัฐด้วย
ส่วนกรณีที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงมีผู้ใช้บริการไม่เป็นไปตามเป้า หลังเปิดเดินรถเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมนั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนกำลังปรับตัวและวางแผนการเดินทาง จึงอาจใช้เวลาบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้ฝากให้ รฟม.ไปหาวิธีการดึงดูดผู้โดยสาร เช่น ปรับราคาค่าโดยสาร หรือจัดรถให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน
จากนี้ไปคณะกรรมการคัดเลือกเอกชน และคณะกรรมการกำกับดูแลโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จะกำหนดกรอบเวลาวางระบบเดินรถและเชื่อมต่อ 1 สถานี และเจรจากับ บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM เพื่อให้เข้ามาบริหารการเดินรถส่วนต่อขยาย เชื่อมต่อโครงข่ายให้เป็นระบบเดียวกัน ภายในเวลาไม่เกิน 60 วัน
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ขอให้เร่งรัดทุกขั้นตอนให้แล้วเสร็จโดยเร็ว โดยคำนึงถึงความสะดวกของประชาชนเป็นอันดับแรก อย่างไรก็ตาม อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า รัฐบาลกำลังพยายามแก้ไขเรื่องการเชื่อมต่อ 1 สถานี แม้ปัญหาจะมาจากการทำสัญญาเดิมก่อนรัฐบาลนี้ก็ตาม จึงต้องให้เวลากับเจ้าหน้าที่ที่จะต้องดูทั้งเรื่องกฎหมายและการเจรจากับเอกชน เพื่อให้เกิดความรอบคอบ และคุ้มค่าที่สุด
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับว่า จากนี้ไปผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกโครงการ ควรเรียนรู้จากสิ่งที่เกิดขึ้น โดยจะต้องวางแผนทำงานให้เป็นระบบ มองทุกเรื่องอย่างครบวงจรและต่อเนื่อง แม้จะแยกสัญญาก็ตาม รวมทั้งฝากให้พี่น้องประชาชน รัฐวิสาหกิจ และสหภาพแรงงาน ร่วมติดตามการทำงานของรัฐด้วย
ส่วนกรณีที่รถไฟฟ้าสายสีม่วงมีผู้ใช้บริการไม่เป็นไปตามเป้า หลังเปิดเดินรถเมื่อวันที่ 6 สิงหาคมนั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นเรื่องปกติที่ประชาชนกำลังปรับตัวและวางแผนการเดินทาง จึงอาจใช้เวลาบ้าง อย่างไรก็ตาม ได้ฝากให้ รฟม.ไปหาวิธีการดึงดูดผู้โดยสาร เช่น ปรับราคาค่าโดยสาร หรือจัดรถให้บริการเชื่อมต่อระหว่างสถานีเตาปูนกับสถานีบางซื่อ ซึ่งอยู่ระหว่างการแก้ไขปัญหา เพื่อให้เกิดความสะดวกแก่ประชาชน