พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ร่วมแถลงความคืบหน้าการตรวจยึดการลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูจดประกอบ และลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูทั้งคันผิดกฎหมาย รวมจำนวน 49 คัน คิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐรวมประมาณ 480 ล้านบาท พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า จากการเข้าตรวจค้น บริษัท เอส เค ที มอเตอร์ จำกัด ตำบลบางกระเบา อำเภอบ้านสร้าง จังหวัดปราจีนบุรี พบว่าเป็นสถานที่จดประกอบรถยนต์นำเข้าและสำแดงภาษีเท็จ โดยได้ทำการตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 37 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อ Bentley จำนวน 2 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Benz จำนวน 14 คัน รถยนต์ยี่ห้อ BMW จำนวน 5 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Toyota จำนวน 7 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Nissan จำนวน 6 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Porsche จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Dodge จำนวน 1 คัน และรถยนต์ยี่ห้อ Lexus จำนวน 1 คัน มูลค่าความเสียหายกว่า 200 ล้านบาท เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ.2469 มาตรา 27 มาตรา 27 ทวิ
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ส่วนการสืบสวนสอบสวนการลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูทั้งคันโดยวิธีการหลีกเลี่ยงภาษีและปลอมแปลงเอกสารเพื่อจดทะเบียน คณะพนักงานสอบสวนฯ ได้ตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 12 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อ Bentley จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Ferrari จำนวน 2 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Rolls-Roy จำนวน 1 คัน และรถยนต์ยี่ห้อ Porsche จำนวน 8 คัน มูลค่ารถยนต์ที่ตรวจยึดประมาณ 70 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐประมาณ 280 ล้านบาท เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับ 4 เท่าของราคารวมค่าอากร และความผิดในการใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวต่อว่า ส่วนการสืบสวนสอบสวนการลักลอบนำเข้ารถยนต์หรูทั้งคันโดยวิธีการหลีกเลี่ยงภาษีและปลอมแปลงเอกสารเพื่อจดทะเบียน คณะพนักงานสอบสวนฯ ได้ตรวจยึดรถยนต์ต้องสงสัย จำนวน 12 คัน ประกอบด้วย รถยนต์ยี่ห้อ Bentley จำนวน 1 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Ferrari จำนวน 2 คัน รถยนต์ยี่ห้อ Rolls-Roy จำนวน 1 คัน และรถยนต์ยี่ห้อ Porsche จำนวน 8 คัน มูลค่ารถยนต์ที่ตรวจยึดประมาณ 70 ล้านบาท โดยคิดเป็นมูลค่าความเสียหายต่อรัฐประมาณ 280 ล้านบาท เข้าข่ายความผิดตามพระราชบัญญัติศุลกากร พ.ศ. 2469 มาตรา 27 มาตรา 27 ทวิ ซึ่งความผิดมีโทษจำคุกไม่เกิน 10 ปี และปรับ 4 เท่าของราคารวมค่าอากร และความผิดในการใช้เอกสารปลอม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 268 ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี