พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ ธวัชวิเชียร รอง ผบก.ภว.จ.เลย หัวหน้าทีมพนักงานสอบสวนคดีวัดป่าหิมวันต์ ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย เปิดเผยความ คืบหน้าการทวงคืนผืนป่าสวนป่าหิมวันต์ ตำบลร่องจิก อำเภอภูเรือ จังหวัดเลย เครือข่าย วัดพระธรรมกายว่า จากการสอบสวนและหาหลักฐานของพนักงานสอบสวนตั้งแต่วันที่เข้าตรวจยึด พบว่าสวนป่าหิมวันต์ทำความผิดจริง จึงรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลจังหวัดเลยออกหมายจับพระเทพ ญาณมหามุนี (ไชยบูลย์ ธัมมชโย) หรือ พระไพบูลย์ เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย และวัดพระธรรมกาย พร้อมแจ้งข้อกล่าวหา นายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแล ร่วม ยึดครอบครอง
พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ โดยทางสอบสวนพบว่าก่อนจะมีการโอนโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. จำนวน 10 แปลง จำนวน 84 ไร่ รวมออกเป็นโฉนดฉบับเดียวเป็น 129 ไร่ เพิ่มขึ้น 45 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนนั้น ถือว่าครอบครองโดยผิดกฎหมาย ดังนั้น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ขอ อนุมัติศาลจังหวัดเลยออกหมายจับ ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหานายศักดิ์ชาย ผู้ดูแล ร่วมยึดครอบครองทำประโยชน์ อยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำโดยประการใด อันเป็นการทำลายป่า และเป็นการเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ โดย ไม่ได้รับอนุญาต ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2559 เลขที่ 174/59 และ 175/59 ขณะนี้ได้ส่งหมายจับ ไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ พบตัวที่ไหนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนการรวบรวม หลักฐานเพื่อส่งให้อัยการฟ้อง คาดว่าจะ แล้วเสร็จเดือนกันยายน
ส่วนนายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแลนั้น ที่ไม่ได้ขอหมายจับ เนื่องจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้หลบหนีหลังเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดสวนป่าหิมวันต์ โดยไม่มีการจับกุมตัวแต่อย่างไร วันนี้จึงแจ้งข้อกล่าวหานายศักดิ์ชาย ข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถางป่าสงวน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ต.อ.ปิติพัฒน์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ โดยทางสอบสวนพบว่าก่อนจะมีการโอนโฉนดที่ดิน น.ส.3 ก. จำนวน 10 แปลง จำนวน 84 ไร่ รวมออกเป็นโฉนดฉบับเดียวเป็น 129 ไร่ เพิ่มขึ้น 45 ไร่ ซึ่งอยู่ในพื้นที่ป่าสงวนนั้น ถือว่าครอบครองโดยผิดกฎหมาย ดังนั้น เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม ขอ อนุมัติศาลจังหวัดเลยออกหมายจับ ซึ่งศาลอนุมัติหมายจับและแจ้งข้อกล่าวหานายศักดิ์ชาย ผู้ดูแล ร่วมยึดครอบครองทำประโยชน์ อยู่อาศัยในที่ดินก่อสร้าง แผ้วถาง หรือกระทำโดยประการใด อันเป็นการทำลายป่า และเป็นการเสื่อมเสียป่าสงวนแห่งชาติ โดย ไม่ได้รับอนุญาต ตามหมายจับศาลจังหวัดเลย ลงวันที่ 15 สิงหาคม 2559 เลขที่ 174/59 และ 175/59 ขณะนี้ได้ส่งหมายจับ ไปยังสถานีตำรวจทั่วประเทศ พบตัวที่ไหนสามารถจับกุมตัวได้ ส่วนการรวบรวม หลักฐานเพื่อส่งให้อัยการฟ้อง คาดว่าจะ แล้วเสร็จเดือนกันยายน
ส่วนนายศักดิ์ชาย มงคลเคหา ผู้ดูแลนั้น ที่ไม่ได้ขอหมายจับ เนื่องจากเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ และไม่ได้หลบหนีหลังเจ้าหน้าที่ทำการตรวจยึดสวนป่าหิมวันต์ โดยไม่มีการจับกุมตัวแต่อย่างไร วันนี้จึงแจ้งข้อกล่าวหานายศักดิ์ชาย ข้อหาร่วมกันบุกรุก แผ้วถางป่าสงวน มีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี ปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ