รายงานข่าวแจ้งว่า หนังสือพิมพ์อินเตอร์เนชั่นแนลนิวยอร์กไทมส์ และวอชิงตันโพสต์ของสหรัฐอเมริกา และสื่อรัสเซียสำนักข่าว Itar-Tass และสำนักข่าว Sputnik รายงานข่าวตั้งแต่วันที่ 21 ก.ค.ที่ผ่านมา กรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยจับกุมนายดีมิทรี ยูเคนสกี อายุ 44 ปี ชาวรัสเซีย และนางออกา โคโมวา อายุ 25 ปี ชาวอุซเบกิสถาน ในข้อหาหลอกลวงฉ้อโกงเงินชาวอเมริกันและประชาชนอีกหลายประเทศด้วยการใช้อีเมล์ติดต่อ โดยการจับกุมเป็นการร้องขอจากสำนักงานสอบสวนกลางของสหรัฐอเมริกา(เอฟบีไอ)
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังรายงานเชิงความเห็นว่า ไทยกำลังถูกกดดันจากรัสเซียไม่ให้ส่งตัวผู้ต้องหาให้สหรัฐ และเมืองตากอากาศในไทย เช่น ที่พัทยา จ.ชลบุรี เป็นสถานที่หลบซ่อนชั้นดีของพวกกระทำผิดกฎหมาย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย แถลงเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่ได้รับหนังสือตอบอย่างเป็นทางการจากไทย หลังจากที่ยื่นหนังสือถึงฝ่ายไทยระบุว่า การส่งตัวนายดีมิทรี ยูเคนสกี ชาวรัสเซียที่ถูกจับกุมในไทยตามการประสานของเอฟบีไอเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
"การแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตเข้าเยี่ยมนายดีมิทรี ยูเคนสกี ซึ่งยังคงปฏิเสธความผิดตามที่มีการกล่าวหา และคาดหวังจะได้รับเอกสารจากฝ่ายไทย ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงในวันเดียวกันว่า ต้องการให้ไทยปล่อยตัวหรือส่งตัวนายดีมิทรี ยูเคนสกีให้ทางการรัสเซีย" สื่อรัสเซียระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการจับกุมนายดีมิทรี ยูเคนสกี อายุ 44 ปี สัญชาติรัสเซีย และนางออกา โคโมวา อายุ 25 ปี สัญชาติอุซเบกิสถาน สองผู้ต้องหาตามหมายจับสากล หลังแฮ็กข้อมูลระบบทางการเงินไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท
ในการแถลงข่าวดังกล่าว พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม โดยพล.ต.ท.ณัฐธรระบุว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเอฟบีไอได้ประสานมายังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้สืบสวนติดตามจับกุมอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญจำนวน 2 ราย ต่อมาทางตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนกระทั่งทราบว่าทางนายดีมิทรีได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยเปิดบริษัท 3-4 บริษัท ซึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้บริการเรือยอชต์แก่นักท่องเที่ยวภายในพัทยา ส่วนนางออกาได้หลบหนีกบดานโดยทำงานกับโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะช้าง จ.ตราด ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุช่วงแถลงข่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้สร้างและส่งมัลแวร์ไปยังระบบของผู้เสียหาย จากนั้นระบบการเงินของผู้เสียหายที่อยู่ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อังกฤษ อิตาลี และเยอรมนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐได้ทำการสืบสวนตั้งแต่ปี 2557 จนพอข้อมูลการโอนเงินเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทำการตรวจยึดและอายัดเงินสดได้ไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งมอบให้ทางสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีข่าวรัสเซียไม่พอใจให้ส่งตัวผู้ต้องหาชาวรัสเซียไปให้เอฟบีไอ สหรัฐ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เบื้องต้นเรายังไม่แน่ใจว่าทางรัสเซียไม่พอใจหรือไม่อย่างไร แต่การที่ทูตรัสเซียประจำประเทศไทยเข้ามาประสานกับกระทรวงการต่างประเทศของเรา เพราะเป็นหน้าที่ในการดูแลคนของเขาอยู่แล้ว เวลามีพลเมืองต้องคดีหรือถูกจับกุม
นายปณิธานกล่าวว่า การส่งตัวชาวต่างชาติให้กับใคร มีกติกาและกฎหมายชัดเจนอยู่พอสมควร ต้องดูว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนและมีคดีเทียบเคียงกันหรือไม่ ถ้าไม่มีสนธิสัญญาและไม่มีคดีเทียบเคียง ก็ต้องไปดูว่ามีข้อตกลงต่างตอบแทนได้หรือไม่ในทางการทูต เช่นครั้งหนึ่งตอนเราไม่มีสนธิสัญญากับกัมพูชา เราก็ใช้วิธีแลกเปลี่ยนผู้ต้องหากัน ซึ่งเรื่องนี้อัยการระหว่างประเทศจะพิจารณาเสนอให้ฝ่ายการเมืองตัดสินใจอีกครั้ง แต่ต้องรอความชัดเจนจากเขาก่อน
"มีหลายกรณีที่สหรัฐกับรัสเซียพยายามกดดันให้คนของชาติตัวเองไม่ถูกส่งไปประเทศนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะแต่ละประเทศต้องตัดสินใจตามความเหมาะสมว่าจะส่งหรือไม่ แต่ถ้าเป็นคดีทางการเมือง ไม่สามารถส่งตัวให้ได้แน่นอน หรือคดีที่ไม่มีในข้อตกลงก็ส่งให้ไม่ได้ เพราะจะกระทบเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือถ้าจะยกเว้นโดยใช้วิธีข้อตกลงต่างตอบแทน เช่น การแลกเปลี่ยนผู้ต้องหา ก็ต้องทำกันอย่างเปิดเผย ต้องอธิบายต่อทางการได้" นายปณิธานกล่าว
ถามว่า กรณีนี้จะส่งผลกระทบความสัมพันธ์ไทยกับรัสเซียที่กำลังดีมากในช่วงนี้หรือไม่ ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่จำเป็นว่าช่วงไหนดีหรือไม่ดี เพราะโดยปกติชาติมหาอำนาจจะพยายามกดดันทุกกรณีไม่ให้คนของเขาถูกส่งไปอีกประเทศ ไม่ว่ากรณีไหนเขาก็ไม่ยอม แต่ในช่วงที่ความสัมพันธ์ของเรากับเขากำลังดี ก็อาจจะคุยกันง่ายขึ้น อาจเปิดอกได้มากกว่า ส่วนจะกระทบหรือไม่ ต้องดูอีกที
ซักว่า กรณีนี้อาจสร้างปัญหาเหมือนเมื่อครั้งกรณีวิคเตอร์ บูท นายปณิธานกล่าวว่า คดีมีความต่างกัน กรณีของวิคเตอร์ บูท มีที่มาที่ไปคดีชัดเจนในสหรัฐ เป็นคนในเครือข่ายสากล ถ้าไม่ใช่สหรัฐ ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ต้องการตัว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของนายดีมิทรี ตนไม่แน่ใจเรื่องรูปคดีลึกๆ ข้อหาจริงๆ คืออะไร ต้องดูรายละเอียดที่เอฟบีไอส่งมา
"เบื้องต้นเท่าที่ทราบคือเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ฟอกเงิน ซึ่งถ้ามองในแง่ของการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานสากล เรื่องนี้ก็อาจทำให้เขาได้เห็นศักยภาพของเราในการแก้ปัญหาที่ถูกมองว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน ตามการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการปราบปรามฟอกเงินฯ โดย FATF" นายปณิธานกล่าว
ส่วน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหาได้ร้องขอเพื่อให้ส่งตัวไปดำเนินคดียังประเทศรัสเซีย เนื่องจากเป็นประเทศบ้านเกิด และเชื่อว่าอัตราโทษต่ำกว่า แต่เอฟบีไอสหรัฐได้ประสานเพื่อขอตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายผ่านกองการต่างประเทศ มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำหนังสือส่งอัยการและศาล เพื่อส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดนไปสอบสวนตามที่สหรัฐร้องขอมา
"คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการเรื่องเอกสารส่งตัวไม่เกิน 2 สัปดาห์ และขอยืนยันการส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ไปให้สหรัฐไม่เกี่ยวกับคดีหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ที่มีลักษณะเกี่ยวกับการฟอกเงินเหมือนกัน" ผบก.ทท.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยพยายามร้องขอให้ไทยส่งนายวิคเตอร์ อนาโตลเยวิช บูท หรือ วิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธระดับโลกชาวรัสเซีย ที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาต้องการตัว หลังถูกจับกุมตัวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2551 ตามหมายจับของตำรวจสากล ด้วยข้อหาขนส่งอาวุธสงครามให้กับขบวนการค้ายาเสพติดในโคลอมเบีย
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้อง เนื่องจากศาลเห็นว่าข้อกล่าวหาของโจทก์ที่อ้างว่าจำเลยร่วมมือกับขบวนการฟาร์กโจมตีเจ้าหน้าที่พลเรือนและทรัพย์สินของสหรัฐนั้น เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ อีกทั้งพยานโจทก์ไม่ได้เบิกความยืนยันว่าการที่จำเลยค้าอาวุธจำนวนมาก ซึ่งปกติเพียงคนเดียวไม่น่าจะทำได้หากไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากทางการรัสเซีย
ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตามคำร้องของพนักงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ เนื่องจากศาลพิเคราะห์ว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีทางอาญาทั่วไป อีกทั้งนายวิคเตอร์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟาร์ก แต่นายวิคเตอร์เป็นพ่อค้าอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ทางการไทยไม่มีอำนาจตัดสินในข้อหาที่มีการยื่นฟ้อง จึงมีความเห็นให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกาภายใน 3 เดือน หากไม่มีการติดต่อส่งมอบตัว ก็ให้ปล่อยตัวตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนปี 2472
กระทั่งวันอังคารที่ 16 พ.ย.2553 เวลา 13.27 น. กำลังตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือคุ้มกันนายวิคเตอร์ บูท ซึ่งสวมเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
หนังสือพิมพ์ดังกล่าวยังรายงานเชิงความเห็นว่า ไทยกำลังถูกกดดันจากรัสเซียไม่ให้ส่งตัวผู้ต้องหาให้สหรัฐ และเมืองตากอากาศในไทย เช่น ที่พัทยา จ.ชลบุรี เป็นสถานที่หลบซ่อนชั้นดีของพวกกระทำผิดกฎหมาย โดยรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศของรัสเซีย แถลงเมื่อวันที่ 22 ก.ค.ว่า กระทรวงการต่างประเทศรัสเซียยังไม่ได้รับหนังสือตอบอย่างเป็นทางการจากไทย หลังจากที่ยื่นหนังสือถึงฝ่ายไทยระบุว่า การส่งตัวนายดีมิทรี ยูเคนสกี ชาวรัสเซียที่ถูกจับกุมในไทยตามการประสานของเอฟบีไอเป็นสิ่งที่ยอมรับไม่ได้
"การแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสถานเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำประเทศไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตเข้าเยี่ยมนายดีมิทรี ยูเคนสกี ซึ่งยังคงปฏิเสธความผิดตามที่มีการกล่าวหา และคาดหวังจะได้รับเอกสารจากฝ่ายไทย ส่วนกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียแถลงในวันเดียวกันว่า ต้องการให้ไทยปล่อยตัวหรือส่งตัวนายดีมิทรี ยูเคนสกีให้ทางการรัสเซีย" สื่อรัสเซียระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับเรื่องดังกล่าวสืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 21 ก.ค. ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้ทำการจับกุมนายดีมิทรี ยูเคนสกี อายุ 44 ปี สัญชาติรัสเซีย และนางออกา โคโมวา อายุ 25 ปี สัญชาติอุซเบกิสถาน สองผู้ต้องหาตามหมายจับสากล หลังแฮ็กข้อมูลระบบทางการเงินไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี มูลค่าความเสียหายนับพันล้านบาท
ในการแถลงข่าวดังกล่าว พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้บัญชาการตำรวจตรวจคนเข้าเมือง (ผบช.สตม.) พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว (ผบก.ทท.) ร่วมกันแถลงข่าวการจับกุม โดยพล.ต.ท.ณัฐธรระบุว่า การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากทางเอฟบีไอได้ประสานมายังกองบังคับการตำรวจท่องเที่ยวเพื่อให้สืบสวนติดตามจับกุมอาชญากรข้ามชาติรายสำคัญจำนวน 2 ราย ต่อมาทางตำรวจได้ลงพื้นที่สืบสวนกระทั่งทราบว่าทางนายดีมิทรีได้หลบหนีไปกบดานอยู่ที่พัทยา จ.ชลบุรี โดยเปิดบริษัท 3-4 บริษัท ซึ่งเกี่ยวกับการท่องเที่ยวให้บริการเรือยอชต์แก่นักท่องเที่ยวภายในพัทยา ส่วนนางออกาได้หลบหนีกบดานโดยทำงานกับโรงแรมแห่งหนึ่งที่เกาะช้าง จ.ตราด ก่อนควบคุมตัวมาสอบสวน
เช่นเดียวกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ ระบุช่วงแถลงข่าวว่า จากการสอบสวนทราบว่าผู้ต้องหาทั้งสองได้สร้างและส่งมัลแวร์ไปยังระบบของผู้เสียหาย จากนั้นระบบการเงินของผู้เสียหายที่อยู่ทั้งในประเทศสหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อังกฤษ อิตาลี และเยอรมนี ซึ่งเจ้าหน้าที่ทางการสหรัฐได้ทำการสืบสวนตั้งแต่ปี 2557 จนพอข้อมูลการโอนเงินเข้ามาในประเทศไทยหลายครั้ง ขณะที่เจ้าหน้าที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ทำการตรวจยึดและอายัดเงินสดได้ไม่ต่ำกว่า 50 บัญชี สร้างความเสียหายนับพันล้านบาท เบื้องต้นควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองส่งมอบให้ทางสำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย
อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากมีข่าวรัสเซียไม่พอใจให้ส่งตัวผู้ต้องหาชาวรัสเซียไปให้เอฟบีไอ สหรัฐ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคงและ รมว.กลาโหม กล่าวว่า เบื้องต้นเรายังไม่แน่ใจว่าทางรัสเซียไม่พอใจหรือไม่อย่างไร แต่การที่ทูตรัสเซียประจำประเทศไทยเข้ามาประสานกับกระทรวงการต่างประเทศของเรา เพราะเป็นหน้าที่ในการดูแลคนของเขาอยู่แล้ว เวลามีพลเมืองต้องคดีหรือถูกจับกุม
นายปณิธานกล่าวว่า การส่งตัวชาวต่างชาติให้กับใคร มีกติกาและกฎหมายชัดเจนอยู่พอสมควร ต้องดูว่ามีสนธิสัญญาส่งผู้ร้ายข้ามแดนและมีคดีเทียบเคียงกันหรือไม่ ถ้าไม่มีสนธิสัญญาและไม่มีคดีเทียบเคียง ก็ต้องไปดูว่ามีข้อตกลงต่างตอบแทนได้หรือไม่ในทางการทูต เช่นครั้งหนึ่งตอนเราไม่มีสนธิสัญญากับกัมพูชา เราก็ใช้วิธีแลกเปลี่ยนผู้ต้องหากัน ซึ่งเรื่องนี้อัยการระหว่างประเทศจะพิจารณาเสนอให้ฝ่ายการเมืองตัดสินใจอีกครั้ง แต่ต้องรอความชัดเจนจากเขาก่อน
"มีหลายกรณีที่สหรัฐกับรัสเซียพยายามกดดันให้คนของชาติตัวเองไม่ถูกส่งไปประเทศนั้นๆ ซึ่งไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร เพราะแต่ละประเทศต้องตัดสินใจตามความเหมาะสมว่าจะส่งหรือไม่ แต่ถ้าเป็นคดีทางการเมือง ไม่สามารถส่งตัวให้ได้แน่นอน หรือคดีที่ไม่มีในข้อตกลงก็ส่งให้ไม่ได้ เพราะจะกระทบเรื่องสิทธิมนุษยชน หรือถ้าจะยกเว้นโดยใช้วิธีข้อตกลงต่างตอบแทน เช่น การแลกเปลี่ยนผู้ต้องหา ก็ต้องทำกันอย่างเปิดเผย ต้องอธิบายต่อทางการได้" นายปณิธานกล่าว
ถามว่า กรณีนี้จะส่งผลกระทบความสัมพันธ์ไทยกับรัสเซียที่กำลังดีมากในช่วงนี้หรือไม่ ที่ปรึกษา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่จำเป็นว่าช่วงไหนดีหรือไม่ดี เพราะโดยปกติชาติมหาอำนาจจะพยายามกดดันทุกกรณีไม่ให้คนของเขาถูกส่งไปอีกประเทศ ไม่ว่ากรณีไหนเขาก็ไม่ยอม แต่ในช่วงที่ความสัมพันธ์ของเรากับเขากำลังดี ก็อาจจะคุยกันง่ายขึ้น อาจเปิดอกได้มากกว่า ส่วนจะกระทบหรือไม่ ต้องดูอีกที
ซักว่า กรณีนี้อาจสร้างปัญหาเหมือนเมื่อครั้งกรณีวิคเตอร์ บูท นายปณิธานกล่าวว่า คดีมีความต่างกัน กรณีของวิคเตอร์ บูท มีที่มาที่ไปคดีชัดเจนในสหรัฐ เป็นคนในเครือข่ายสากล ถ้าไม่ใช่สหรัฐ ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่ต้องการตัว แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับกรณีของนายดีมิทรี ตนไม่แน่ใจเรื่องรูปคดีลึกๆ ข้อหาจริงๆ คืออะไร ต้องดูรายละเอียดที่เอฟบีไอส่งมา
"เบื้องต้นเท่าที่ทราบคือเกี่ยวกับธุรกรรมทางการเงิน ฟอกเงิน ซึ่งถ้ามองในแง่ของการให้ความร่วมมือกับหน่วยงานสากล เรื่องนี้ก็อาจทำให้เขาได้เห็นศักยภาพของเราในการแก้ปัญหาที่ถูกมองว่าเป็นแหล่งฟอกเงิน ตามการประเมินการปฏิบัติตามมาตรฐานสากลด้านการปราบปรามฟอกเงินฯ โดย FATF" นายปณิธานกล่าว
ส่วน พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.ทท. กล่าวว่า คดีนี้ผู้ต้องหาได้ร้องขอเพื่อให้ส่งตัวไปดำเนินคดียังประเทศรัสเซีย เนื่องจากเป็นประเทศบ้านเกิด และเชื่อว่าอัตราโทษต่ำกว่า แต่เอฟบีไอสหรัฐได้ประสานเพื่อขอตัวผู้ต้องหาทั้ง 2 รายผ่านกองการต่างประเทศ มายังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ดังนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเร่งทำหนังสือส่งอัยการและศาล เพื่อส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดนไปสอบสวนตามที่สหรัฐร้องขอมา
"คาดว่าจะใช้เวลาดำเนินการเรื่องเอกสารส่งตัวไม่เกิน 2 สัปดาห์ และขอยืนยันการส่งตัวผู้ต้องหารายนี้ไปให้สหรัฐไม่เกี่ยวกับคดีหลวงปู่เณรคำ ฉัตติโก ที่มีลักษณะเกี่ยวกับการฟอกเงินเหมือนกัน" ผบก.ทท.กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ รัสเซียเคยพยายามร้องขอให้ไทยส่งนายวิคเตอร์ อนาโตลเยวิช บูท หรือ วิคเตอร์ บูท พ่อค้าอาวุธระดับโลกชาวรัสเซีย ที่กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกาต้องการตัว หลังถูกจับกุมตัวที่กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 6 มี.ค.2551 ตามหมายจับของตำรวจสากล ด้วยข้อหาขนส่งอาวุธสงครามให้กับขบวนการค้ายาเสพติดในโคลอมเบีย
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกคำร้อง เนื่องจากศาลเห็นว่าข้อกล่าวหาของโจทก์ที่อ้างว่าจำเลยร่วมมือกับขบวนการฟาร์กโจมตีเจ้าหน้าที่พลเรือนและทรัพย์สินของสหรัฐนั้น เป็นการกล่าวอ้างลอยๆ อีกทั้งพยานโจทก์ไม่ได้เบิกความยืนยันว่าการที่จำเลยค้าอาวุธจำนวนมาก ซึ่งปกติเพียงคนเดียวไม่น่าจะทำได้หากไม่ได้รับอนุญาตอย่างถูกต้องจากทางการรัสเซีย
ต่อมาศาลอุทธรณ์ได้กลับคำพิพากษาให้ส่งตัวนายวิคเตอร์ บูท กลับไปดำเนินคดีที่ประเทศสหรัฐอเมริกาตามคำร้องของพนักงานอัยการฝ่ายคดีต่างประเทศ เนื่องจากศาลพิเคราะห์ว่าคดีดังกล่าวเป็นคดีทางอาญาทั่วไป อีกทั้งนายวิคเตอร์ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการฟาร์ก แต่นายวิคเตอร์เป็นพ่อค้าอาวุธสงคราม ซึ่งเป็นความผิดทางอาญา ทางการไทยไม่มีอำนาจตัดสินในข้อหาที่มีการยื่นฟ้อง จึงมีความเห็นให้ส่งตัวกลับไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกาภายใน 3 เดือน หากไม่มีการติดต่อส่งมอบตัว ก็ให้ปล่อยตัวตาม พ.ร.บ.ส่งผู้ร้ายข้ามแดนปี 2472
กระทั่งวันอังคารที่ 16 พ.ย.2553 เวลา 13.27 น. กำลังตำรวจคอมมานโดพร้อมอาวุธครบมือคุ้มกันนายวิคเตอร์ บูท ซึ่งสวมเสื้อเกราะและหมวกนิรภัยขึ้นเครื่องบินที่สนามบินดอนเมือง เพื่อเดินทางไปดำเนินคดีที่สหรัฐอเมริกาในฐานะผู้ร้ายข้ามแดน
