MGR Online - จะมีการหยิบ “ตำรวจ” ระดับ ผกก. จากนครบาลออก 30 ตำแหน่ง ภาค 1 เกือบ 20 ตำแหน่ง สตม. กว่า 35 ตำแหน่ง ออกนอกหน่วยเพื่อเปิดทางรองรับ “ตั๋ว” รวมทั้งข่าวคราวกลยุทธ์การเปิดเก้าอี้ว่างด้วยการ “ให้ออกแบบต่างตอบแทน” กับตำรวจระดับ “รอง ผบก.” และ “ผกก.” จำนวนมาก เพื่อให้มีที่ว่างในการขยับเพิ่มขึ้น
ยืนยันเสียงดังฟังชัดจากปาก “บิ๊กแป๊ะ” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา แม่ทัพใหญ่สีกากี ไม่มีปัญหาขัดข้องเคืองใจ กับ “โจ๊ก หวานเจี๊ยบ” พล.ต.ต.สุรเชษฐ หักพาล ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว น้องเลิฟ “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เกี่ยวกับการแต่งตั้งตำรวจระดับ สารวัตร (สว.) - รองผู้บังคับการ (รอง ผบก.) วาระประจำปี 2558 ที่อยู่ระหว่างจัดทำบัญชีแต่งตั้งกันอยู่ตอนนี้
จากที่มีข่าวลือการแต่งตั้งระดับ “นายพัน” ต้องสะดุดลงอีกครั้ง เพราะมีการสอดไส้รายชื่อแต่งตั้งจนล้นเก้าอี้ ล้นตำแหน่งว่าง และเกิดการตำหนิกันขึ้นระหว่าง ผบ.ตร. กับพล.ต.ต. รายหนึ่ง ที่มีความใกล้ชิดผู้มีอำนาจในรัฐบาล “ตามข่าวที่เขียนเอากันตรง ๆเลยนะว่า ผมกับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ (หักพาล) ไม่เกาเหลาไม่กินเส้นกัน ซึ่งมันไม่ได้มีอะไรเลย ทำให้คนอ่านข่าวเกิดความไขว้เขว เป็นการชี้นำสังคมไปแบบผิด ๆ อย่าเขียนข่าวเอาสนุก ผมเชื่อว่า สื่อที่นำเสนอเรื่องนี้คงรับงานมาจากพรรคพวกตัวเอง หรือบางคนที่กลัวว่าจะถูกปรับย้าย ซึ่งผมรู้ตัวหมดแล้วว่า เป็นใครบ้าง ส่วนหนึ่งเป็นข้าราชการตำรวจด้วย ขอยืนยันว่า การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจระดับ รอง ผบก.- สว. ต้องโปร่งใสตรงไปตรงมา และจะแล้วเสร็จทันวันที่ 11 พ.ค. อย่างแน่นอน”
นอกจากการันตี ความสัมพันธ์อันหวานเจี๊ยบ หวานจ๋อย กับ “ผู้การฯโจ๊ก” แล้ว “บิ๊กแป๊ะ” ยังเปิดให้สื่อเข้าไปเก็บภาพการนั่งประชุมของบอร์ดกลั่นกรองแต่งตั้ง สว.- รอง ผบก. เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันแรกจาก 3 วัน ที่จะมีการประชุมกลั่นกรองระหว่างวันที่ 7 - 9 พ.ค. หลังจากเลื่อนจากของเดิมมา 2 - 3 วัน พร้อมกับย้ำต่อที่ประชุมต่อหน้าสื่อ ถึงการแต่งตั้งยังคงเป็นไปตามกำหนด ไม่เลื่อนตามที่เป็นข่าว
“ผมเป็นผู้รับผิดชอบการแต่งตั้งทั้งหมด ไม่มีการเมือง ไม่มีของใคร มีแต่ของ ผบ.ตร. และชี้แจงต่อสื่อแล้วว่าไม่มีเกาเหลา พล.ต.ต. ในบอร์ดกลั่นกรอง ก็มีเพียง พล.ต.ต.สรไกร เพียงคนเดียวเท่านั้น ผมเป็นคนชัดเจน ไม่มีปากเสียง ไม่ใช่พวกคนสองเพศที่ชอบมีปากเสียงแบ่งพรรคแบ่งพวก”
จะว่าไปหากย้อนไปดูความสัมพันธ์ระหว่าง “พล.ต.อ.จักรทิพย์” กับ “พล.ต.ต.สุรเชษฐ์” เรื่องที่จะทะเลาะกันเสียงดัง ถึงขั้นแตกหัก แม้จะมีโอกาสแต่ก็ไม่น่าเกิดขึ้น เพราะย้อนไปดูความสัมพันธ์ในอดีต พี่แป๊ะ กับ น้องโจ๊ก ช่วยเหลือดูแลเกื้อกูลกันมาตลอด โดยเฉพาะช่วงที่ “น้องโจ๊ก” ไม่เป็นที่ต้องการของ “สอบสวนกลาง” จากนั่งเก้าอี้ฝ่ายปฏิบัติ ก็จนเด้งเข้ามานั่ง “ฝอ.” ก็ได้ “พี่แป๊ะ” ที่ขยับจาก “นครบาล” ไปเป็น ผบช.ภ.9 ดึง “น้องโจ๊ก” ไปเป็น “ผกก.หาดใหญ่” โรงพักเกรดเอบวกของภาคใต้
ยิ่งช่วงจังหวะที่ “น้องโจ๊ก” สามารถเข้านอกออกในบ้าน “วงษ์สุวรรณ” จนกลายมาเป็น “น้องเลิฟ” พล.อ.ประวิตร ส่วนหนึ่งก็มาจาก “พี่แป๊ะ” ที่คอยสนับสนุนค้ำจุน ลำพังแค่เรื่องการสนับสนุนใครในการแต่งตั้งเพิ่มเติม ซึ่งอาจจะมากน้อยอย่างไร พี่น้องคู่นี้ก็น่าจะคุยกันได้รู้เรื่อง ไม่น่าจะถึงขั้นทะเลาะกันรุนแรง ตักเตือน ดุ แนะนำ น่าจะเป็นลักษณะที่เกิดขึ้นมากกว่าความรุนแรง เพราะนั่นไม่ได้ทำให้เกิดผลดีต่อใครทั้งนั้น
เพียงแต่กระแสลือโผสะดุดที่ออกมา ถูกตั้งคำถามพร้อม ๆ กับเหตุผลรองรับมาจากการดำเนินการของ “บิ๊กแป๊ะ” และบอร์ดกลั่นกรอง ที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาไม่แน่นอน ไม่ชัดเจน จากเดิมที่วางคิวไว้การพิจารณาแต่งตั้ง สว.- รอง ผบก. วาระประจำปี 2558 จะเริ่มตั้งแต่วันที่ 30 เม.ย. และ 2 - 4 พ.ค. บัญชีแต่งตั้งจะเสร็จสิ้นและมีผลพร้อมกันวันที่ 11 พ.ค.
แต่พอบอร์ดกลั่นกรองประชุมกันจริง ๆ ก็มีเพียงแค่วันสองวัน และพิจารณาแต่งตั้งได้เพียงหน่วยทางเทคนิค อย่างโรงพยาบาลตำรวจ สำนักงานพิสูจน์หลักฐานฯ แค่ไม่ถึง 200 ตำแหน่ง จากที่มีตำแหน่งว่าง 23,000 ตำแหน่ง ยิ่งมาถึง บช. หลัก อย่างภาค 1 - 9 นครบาล สอบสวนกลาง การประชุมต้องเลื่อนไปจากวันที่ 4 พ.ค. ขยับมา 5 พ.ค. ก็ยังไม่ประชุม 6 พ.ค. ก็ยังเลื่อนอีก โดยที่มีคำชี้แจงหรือมีเหตุผลใด ๆ ออกมาจาก “กรรมการกลั่นกรอง” หรือ “ทีมโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ” แม้แต่น้อย
ในทางตรงกันข้ามข้อมูลอย่างเป็นทางการถูกปิดประตู ถูกปิดปากจากผู้ที่เกี่ยวข้อง ข่าวลือที่สะพัดภายในแวดวง “ตำรวจ” เริ่มดังขึ้นถึงสาเหตุการประชุมกลั่นกรองแต่งตั้งที่เริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ต้องมาสะดุดกลางทาง น่าจะเกิดขึ้นจาก “ตั๋ว” ไม่ลงตัว มีการเพิ่มเติม มีการยัดไส้ มีการต่อรองตำแหน่ง บช. หลัก ๆ จนส่งผลกระทบต่อการพิจารณารายชื่อแต่งตั้ง
ท่ามกลางกระแสตื่นตระหนกของเหล่า “สีกากี” ถึงข้อมูลที่ออกมาจะมีการหยิบ “ตำรวจ” ระดับ ผกก. จากนครบาล ออก 30 ตำแหน่ง ภาค 1 เกือบ 20 ตำแหน่ง สตม. กว่า 35 ตำแหน่ง ออกนอกหน่วยเพื่อเปิดทางรองรับ “ตั๋ว” รวมทั้งข่าวคราวกลยุทธ์การเปิดเก้าอี้ว่างด้วยการ “ให้ออกแบบต่างตอบแทน” กับตำรวจระดับ “รอง ผบก.” และ “ผกก.” จำนวนมาก เพื่อให้มีที่ว่างในการขยับเพิ่มขึ้น ผนวกกับข้อมูลเดิมที่มีการเลื่อนแล้วเลื่อนอีกในการแต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ซึ่งว่ากันว่ามาจากความไม่ลงตัวในการจัดทำบัญชีแต่งตั้ง ก็ยิ่งทำให้ทุกกระแสข่าวลือมีน้ำหนัก มีข้อมูลสนับสนุน
และยิ่งไปกว่านั่นหากย้อนไปดูคำสั่งหัวหน้า คสช. มอบอำนาจตามมาตรา 44 ให้ ผบ.ตร. แต่งตั้งตำรวจระดับ “นายพัน” ได้จนถึงวาระประจำปี 2559 หรือแต่งตั้ง สว.-รอง ผบก. ได้อีกรอบหนึ่ง นอกเหนือจากรอบนี้ ก็ยิ่งทำให้ “ตำรวจ” ต่างเริ่มกังวลถึงความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นซ้ำรอยอีกหรือไม่
แม้ ผบ.จักรทิพย์ จะยืดอกการันตีเป็นผู้รับผิดชอบการแต่งตั้งทั้งหมด ไม่มีการเมือง ไม่มีของใคร มีแต่ของ ผบ.ตร. แต่นั่นไม่ได้ทำให้ตำรวจผู้ใต้บังคับบัญชามั่นใจ ไม่หวาดหวั่น ไม่ระส่ำ เพราะสิ่งที่ “ลูกน้อง” อยากเห็นคือ ถึงเวลาแต่งตั้ง ถึงเวลาโยกย้าย ทุกอย่างดำเนินการเสร็จสิ้น เป็นไปตามระบบ เป็นไปตามเวลา ไม่เลื่อนแล้วเลื่อนอีกเหมือนตอนนี้ “บิ๊กแป๊ะ” ทำได้หรือไม่. ??