นายเอกพงษ์ แก้วดี ชาวตำบลทับเที่ยง อ.เมืองตรัง ให้ข้อมูลว่านางสาวสุพัตรา เพ็ชรหิน ภรรยา ตั้งครรภ์ประมาณ 7 สัปดาห์และได้ไปฝากครรภ์ที่คลินิกแห่งหนึ่ง ซึ่งผลตรวจอัลตราซาวด์พบว่าตั้งครรภ์นอกมดลูกด้านขวา แพทย์ประจำคลีนิคจึงทำหนังสือส่งตัวพร้อมแนบผลอัลตราซาวด์ เพื่อเข้ารับการผ่าตัดที่โรงพยาบาลศูนย์ตรัง แต่แพทย์โรงพยาบาลศูนย์ตรังกลับมีความเห็นว่าผู้ป่วยตั้งครรภ์นอกมดลูกด้านซ้าย ซึ่งตัวเองและครอบครัวได้ทักท้วง แต่แพทย์กลับบอกว่าไม่จำเป็นต้องดูผลอัลตราซาวด์ จึงได้ทำการผ่าตัดปีกมดลูกด้านซ้าย แต่หลังจากนั้นก็ต้องกลับมาที่โรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อผ่าตัดปีกมดลูกด้านขวา ทำให้ขณะนี้ถูกตัดปีกมดลูกทิ้งทั้ง 2 ข้างซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการมีลูก
เหตุการณ์นี้นายเอกพงษ์เชื่อว่า แพทย์ผ่าตัดปีกมดลูกผิดด้าน จึงเตรียมร้องเรียนต่อแพทยสภาและกระทรวงสาธารณสุข
ด้านแพทย์หญิงจีระวรรณ อารยะพงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ระบุว่า จากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยท้องนอกมดลูกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งไม่พบบ่อยครั้ง แต่ยอมรับว่าไม่ได้อัลตราซาว์ดครั้งแรก เพราะใช้วิธีเปิดหน้าท้อง และพบว่ามีการตั้งครรถ์นอกมดลูกด้านซ้ายจึงทำการผ่าตัด แต่เมื่อผู้ป่วยกลับบ้านและพบอาการผิดปกติก็พบว่า มีการตั้งครรถ์นอกมดลูกด้านขวาด้วย จึงจำเป็นต้องผ่าตัดออกทั้ง 2 ข้าง และหากต้องการมีบุตร ก็สามารถผสมเทียม แล้วนำไปฝังในมดลูกได้
อย่างไรก็ตาม ญาติของ น.ส.สุพัตรา ระบุว่ามีผลอัลตราซาวด์ยืนยันว่า น.ส.สุพัตราท้องนอกมดลูกเพียงข้างเดียว
เหตุการณ์นี้นายเอกพงษ์เชื่อว่า แพทย์ผ่าตัดปีกมดลูกผิดด้าน จึงเตรียมร้องเรียนต่อแพทยสภาและกระทรวงสาธารณสุข
ด้านแพทย์หญิงจีระวรรณ อารยะพงค์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์ตรัง ระบุว่า จากตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าผู้ป่วยท้องนอกมดลูกทั้ง 2 ข้าง ซึ่งไม่พบบ่อยครั้ง แต่ยอมรับว่าไม่ได้อัลตราซาว์ดครั้งแรก เพราะใช้วิธีเปิดหน้าท้อง และพบว่ามีการตั้งครรถ์นอกมดลูกด้านซ้ายจึงทำการผ่าตัด แต่เมื่อผู้ป่วยกลับบ้านและพบอาการผิดปกติก็พบว่า มีการตั้งครรถ์นอกมดลูกด้านขวาด้วย จึงจำเป็นต้องผ่าตัดออกทั้ง 2 ข้าง และหากต้องการมีบุตร ก็สามารถผสมเทียม แล้วนำไปฝังในมดลูกได้
อย่างไรก็ตาม ญาติของ น.ส.สุพัตรา ระบุว่ามีผลอัลตราซาวด์ยืนยันว่า น.ส.สุพัตราท้องนอกมดลูกเพียงข้างเดียว