พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ ฉิมกรา ผู้บัญชาการสำนักคดีอาญาพิเศษ 3 กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยถึงกรณีที่ แพทยสภาเตรียมประชุมส่งทีมแพทย์เข้าตรวจอาการอาพาธของ พระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายว่า ทางแพทยสภายังไม่ได้ประสานมายังดีเอสไอ เนื่องจากหากวัดส่งหนังสือยินยอมตอบรับแพทยสภาก็สามารถเข้าตรวจอาการได้ โดยดีเอสไอไม่ต้อง
เข้าร่วม ประกอบกับทางวัดเองก็ไม่ได้ยินยอมให้ทางดีเอสไอเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากให้เหตุผลว่า ดีเอสไอได้ประสานงานผ่านไปยังเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จึงล่วงเลยขั้นตอนการพูดคุย และให้เป็นขั้นตอนของสงฆ์ที่จะเป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ พระธัมมชโย จะต้องรอเวลาตามอาการอาพาธหรือไม่นั้น ยืนยันไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างรอการตอบรับจากฝ่ายสงฆ์ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ
ทั้งนี้ พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะสรุปสำนวนส่งอัยการ โดยที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ พระธัมมชโย นั้น สามารถกระทำได้ เนื่องจาก พระธัมมชโย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้พยายามหาแนวทางแจ้งข้อกล่าวหากับ พระธัมมชโย เพื่อให้รับทราบและเตรียมพยานหลักฐานต่อสู้ทางคดีในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ทาง พระธัมมชโย กลับไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามนัด ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จึงจำเป็นที่จะต้องสรุปสำนวนส่งอัยการ เพื่อให้เป็นอำนาจของพนักงานอัยการ ที่จะเป็นผู้ดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งอัยการได้ภายได้ 2 สัปดาห์ และก่อนจะสรุปสำนวนคดี ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะมีการประชุมสรุปรายละเอียดคดีอีกครั้ง
เข้าร่วม ประกอบกับทางวัดเองก็ไม่ได้ยินยอมให้ทางดีเอสไอเข้าไปในพื้นที่ เนื่องจากให้เหตุผลว่า ดีเอสไอได้ประสานงานผ่านไปยังเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานี จึงล่วงเลยขั้นตอนการพูดคุย และให้เป็นขั้นตอนของสงฆ์ที่จะเป็นผู้ดำเนินการ
ส่วนการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาของ พระธัมมชโย จะต้องรอเวลาตามอาการอาพาธหรือไม่นั้น ยืนยันไม่จำเป็น เพราะขณะนี้ดีเอสไออยู่ระหว่างรอการตอบรับจากฝ่ายสงฆ์ เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี เตรียมสรุปสำนวนส่งอัยการ
ทั้งนี้ พ.ต.ท.บรรณฑูรย์ กล่าวถึงกรณีที่พนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะสรุปสำนวนส่งอัยการ โดยที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับ พระธัมมชโย นั้น สามารถกระทำได้ เนื่องจาก พระธัมมชโย เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับ และที่ผ่านมา ดีเอสไอ ได้พยายามหาแนวทางแจ้งข้อกล่าวหากับ พระธัมมชโย เพื่อให้รับทราบและเตรียมพยานหลักฐานต่อสู้ทางคดีในชั้นพนักงานสอบสวนแล้ว แต่ทาง พระธัมมชโย กลับไม่มารับทราบข้อกล่าวหาตามนัด ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จึงจำเป็นที่จะต้องสรุปสำนวนส่งอัยการ เพื่อให้เป็นอำนาจของพนักงานอัยการ ที่จะเป็นผู้ดำเนินคดีตามขั้นตอนต่อไป
พ.ต.ท.ปกรณ์ สุชีวกุล ผู้บัญชาการสำนักคดีการเงินการธนาคาร กรมสอบสวนคดีพิเศษ ระบุว่า พนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน โดยคาดว่าจะสามารถสรุปสำนวนคดีส่งอัยการได้ภายได้ 2 สัปดาห์ และก่อนจะสรุปสำนวนคดี ทางพนักงานสอบสวนดีเอสไอ จะมีการประชุมสรุปรายละเอียดคดีอีกครั้ง