พัทลุง - อนาถใจสุนัขถูกรถชนที่จังหวัดพัทลุงยังไม่ได้รับการเหลียวแลทั้งที่พลเมืองนำส่งถึงโรงพยาบาลสัตว์ ขณะเดียวกันพบหลายโครงการของสำนักงานปศุสัตว์ ส่อเค้าไม่โปรงใส จี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งตรวจสอบ
วันนี้ (6 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่พลเมืองดีพบสุนัขเพศผู้พันธุ์พุดเดิล ที่ถูกรถชนได้รับบาดเจ็บ บริเวณขาหน้าหักและลำตัว ตรงขาหลังมีบาดแผลฉกรรจ์ แล้ว ได้นำส่งโรงพยาบาลสัตว์พัทลุง ของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุง ที่ตั้งอยู่บนถนนไชยบุรี เขตเทศบาลเมืองพัทลุงแต่ไม่สามารถทำการรักษาได้ เนื่องจากโรงพยาบาลไม่มีความพร้อม แม้จะสร้างเสร็จมาแล้วหลายปี ทำให้สุนัขตัวดังกล่าวยังคงทรมานด้วยอาการเจ็บจากบาดแผล และเริ่มมีแผลพุพอง นอนอยู่หน้าอาคารโรงพยาบาล โดยที่เจ้าหน้าที่ปสุสัตว์ไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ นอกจากจะคอยให้น้ำและอาหาร
ทั้งนี้เนื่องจากโรงพยาบาลสัตว์พัทลุง ผู้รับเหมาส่งมอบงานส่วนของอาคารถูกต้องเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อปี พ.ศ.2558 แต่เนื่องจากกรรมการตรวจรับพัสดุและอุปกรณ์ที่ใช้ภายในโรงพยาบาลสัตว์พัทลุงยังไม่ได้เซ็นรับของตามรายการที่จัดซื้อด้วยงบประมาณจำนวน 8 ล้านบาทเศษ ทั้งที่ครบวันกำหนดส่งมอบของมาแล้วประมาณ 1 ปี เนื่องจากอุปกรณ์เครื่องมือ ที่ส่งมานั้นไม่ตรงตามสัญญาที่จัดจ้างไว้ ซึ่งหากรับจะทำให้รัฐต้องเสียผลประโยชน์ ในขณะเดียวกันพบว่าเครื่องมืออุปกรณ์ที่จัดซื้อบางตัว ราคาสูงกว่าในท้องตลาด
ทำให้สัตว์หรือสุนัขที่ชาวบ้านนำมารักษาก่อนหน้านี้หลายตัวได้ตายลงไปเพราะไม่ได้รับความสนใจจากเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ ทั้งที่มีกฎหมายกำหนดไว้อย่างชัดเจนเกี่ยวกับสัตว์
ในขณะที่แหล่งข่าวจากเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ระบุว่านอกจากโครงการสร้างโรงพยาบาลสัตว์ด้วยงบประมาณ 13 ล้านบาท แต่ไม่สามารถเปิดทำการได้แล้ว ยังมีโครงการจัดซื้อน้ำเชื้อพ่อพันธุ์โคพันธุ์ดีเพื่อผสมเทียมให้กับเกตษรกรในจังหวัดพัทลุงอีกโครงการที่มีการทำสัญญาจัดซื้อด้วยงบยุทธศาสตร์จังหวัด ผ่านมา 2 ปี ยังไม่ได้มีการส่งมอบน้ำเชื้อดังกล่าว ทั้งที่มีการเบิกงบประมาณไปแล้ว แต่จนถึงวันนี้ ยังไม่มีน้ำเชื้อแม้แต่หลอดเดียวให้เกษตรกร
นอกจากนี้ยังมี ยังมีโครงการของสำนักงานปศุสัตว์จังหวัดพัทลุงที่มีความประสงค์ให้เกษตรกร ที่ลดพื้นที่ปลูกยางพารา ปรับเปลี่ยนเป็นปลูกพืชอาหารสัตว์ จำนวน 10 ราย จัดตั้งเป็นกลุ่มเลี้ยงสัตว์กับกรมฯ และจดทะเบียนเป็นกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ กสส.จะสนับสนุนพันธุ์โคเนื้อรายละ 5 ตัวๆ ละ 40,000 บาทให้เกษตรกรจัดหาแม่โคเอง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งโครงการที่กำลังจะเริ่มขึ้น และอาจมีความไม่โปร่งใสในการดำเนินการเช่นกัน
ในขณะที่ชาวบ้านระบุว่าหลายโครงการของสำนักงานปศุสัตว์ดูแล้วไม่ค่อยโปร่งใสเท่าที่ควร แต่ก็ยังไม่มีองค์กรหรือหน่วยงานไดในจังหวัดพัทลุงเข้าตรวจสอบ แม้ทุกปีจะมีการแสดงเจตนารมณ์ต่อต้านคอรัปชั่นก็ตาม และโครงการดังกล่าวเกิดขึ้นในยุคของการบริหารงานของ คสช. แต่ก็ไม่ได้รับการสนในใจการตรวจสอบ ในครั้งนี้เช่นกัน ทำให้ชาวพัทลุงต้องเสียประโยชน์กับโครงการต่างๆ เป็นจำนวนมาก