นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในการทบทวนโครงการสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) สหรัฐฯ ปี 2558 สหรัฐฯ ผ่อนผันการระงับสิทธิจีเอสพีตามคำร้องขอผ่อนผันของกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าเกษตร โดยแยกเป็น 2 กรณี ได้แก่ กรณีสินค้าไทยที่มีส่วนแบ่งตลาดนำเข้าจากสหรัฐฯ เกินร้อยละ 50 แต่มูลค่าที่สหรัฐฯ นำเข้าจากทั่วโลกแต่ละรายการต่ำกว่ามูลค่าขั้นต่ำที่สหรัฐฯ กำหนด ซึ่งปี 2558 กำหนดไว้ที่ 23 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ทำให้สินค้าไทยได้รับการผ่อนผัน 11 รายการ ได้แก่ ดอกกล้วยไม้สด เมล็ดถั่วหรั่งที่ใช้เพาะปลูก ทุเรียนสด มะละกอตากแห้ง มะขามตากแห้ง ข้าวโพดปรุงแต่ง ผลไม้/ถั่วแช่อิ่ม มะละกอแปรรูป ตระกร้าจับปลาทำจากไม้ไผ่ กระเปาะแก้วหลอดแคโทเรย์ และอุปกรณ์เครื่องไฟฟ้าที่มีมอเตอร์
ส่วนอีกกรณีที่ไทยได้รับการผ่อนผัน คือ สินค้าหมวดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าน้ำมะพร้าว โดยสหรัฐฯ กำหนดเพดานมูลค่านำเข้า (CNL) ปี 2558 ไว้ที่ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้าจากไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 174.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกินจาก CNL ที่สหรัฐฯ กำหนด แต่จากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ยื่นคำร้องต่อสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ พิจารณาคงสิทธิจีเอสพีสินค้าดังกล่าว โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ อย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ไทยไม่มีรายการสินค้าใดๆ ถูกตัดสิทธิจีเอสพีในการทบทวนโครงการจีเอสพีสหรัฐฯ ประจำปี 2558 ส่งผลให้สินค้าที่ไทยเคยได้รับสิทธิจีเอสพีจากสหรัฐฯ จะยังคงได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าทุกรายการเช่นเดิม ดังนั้น ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกจึงควรเร่งใช้ประโยชน์จากสิทธิจีเอสพีที่ไทยยังคงได้รับให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย
ส่วนอีกกรณีที่ไทยได้รับการผ่อนผัน คือ สินค้าหมวดเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสินค้าน้ำมะพร้าว โดยสหรัฐฯ กำหนดเพดานมูลค่านำเข้า (CNL) ปี 2558 ไว้ที่ 170 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่การนำเข้าจากไทยมีมูลค่าอยู่ที่ 174.08 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเกินจาก CNL ที่สหรัฐฯ กำหนด แต่จากการที่กระทรวงพาณิชย์ได้ยื่นคำร้องต่อสหรัฐฯ ทำให้สหรัฐฯ พิจารณาคงสิทธิจีเอสพีสินค้าดังกล่าว โดยจะได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าสหรัฐฯ อย่างน้อยเป็นเวลา 5 ปี โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคมนี้ เป็นต้นไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การที่ไทยไม่มีรายการสินค้าใดๆ ถูกตัดสิทธิจีเอสพีในการทบทวนโครงการจีเอสพีสหรัฐฯ ประจำปี 2558 ส่งผลให้สินค้าที่ไทยเคยได้รับสิทธิจีเอสพีจากสหรัฐฯ จะยังคงได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าทุกรายการเช่นเดิม ดังนั้น ผู้ประกอบการและผู้ส่งออกจึงควรเร่งใช้ประโยชน์จากสิทธิจีเอสพีที่ไทยยังคงได้รับให้มากที่สุด เพื่อเพิ่มมูลค่าส่งออกไปตลาดสหรัฐฯ มากขึ้น ซึ่งจะส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศด้วย