สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองไบโคนูร์ ประเทศคาซัคสถาน เมื่อวันที่ 7 ก.ค.ว่า จรวดโซยุซ "เอ็มเอส-01" ซึ่งเป็นรุ่นใหม่ นำนักบินอวกาศ 3 คน คือแคทลีน รูบินส์ นักบินอวกาศหญิงขององค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติของสหรัฐ ( นาซา ) อนาโตลี อิวานิชิน จากองค์การอวกาศรัสเซีย ( รอสคอสมอส ) และทาคุยะ โอนิชิ จากสำนักงานสำรวจอวกาศญี่ปุ่น ( จาซา ) ออกเดินทางสู่สถานีอวกาศนานาชาติ จากฐานปล่อยจรวดในเมืองไบโคนูร์ทางตอนกลางของคาซัคสถาน เมื่อเวลา 02.36 น. ตามเวลาท้องถิ่น
ทั้งนี้ กำหนดการของลูกเรือทั้ง 3 คน ซึ่งถือเป็นขุดที่ 48 มีอันต้องล่าช้ากว่ากำหนดการนานกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากรอสคอสมอสต้องการตรวจสอบความพร้อมของตัวยาน และระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัย
ขณะที่รูบินส์ วัย 37 ปี ถือเป็นนักบินอสกาศหญิงคนแรกในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนไอเอสเอส ต่อจากซาแมนธา คริสโตฟอเรตติ นักบินอวกาศชาวอิตาเลียน ซึ่งสร้างสถิติเป็นนักบินอวกาศหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่นานที่สุด 199 วัน ก่อนเดินทางกลับมายังโลกเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว
ปัจจุบันจรวดและแคปซูลโซยุซของรัสเซีย ถือเป็นพาหนะเพียงแบบเดียวที่สามารถนำมนุษย์ขึ้นสู่ไอเอสเอส โครงการร่วมมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.52 ล้านล้านบาท ) ระหว่าง 15 ประเทศ โดยมีสหรัฐและรัสเซียเป็นหัวเรือใหญ่ อย่างไรก็ตาม นาซาหวังว่าจะสามารถกลับมาใช้ยานแคปซูลของตัวเองอีกครั้งภายในปี 2561 โดยเป็นโครงการพัฒนาร่วมกับโบอิ้งและสเปซเอ็กซ์
ทั้งนี้ กำหนดการของลูกเรือทั้ง 3 คน ซึ่งถือเป็นขุดที่ 48 มีอันต้องล่าช้ากว่ากำหนดการนานกว่า 2 สัปดาห์ เนื่องจากรอสคอสมอสต้องการตรวจสอบความพร้อมของตัวยาน และระบบคอมพิวเตอร์ควบคุมที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ให้แน่ใจว่ามีความปลอดภัย
ขณะที่รูบินส์ วัย 37 ปี ถือเป็นนักบินอสกาศหญิงคนแรกในรอบกว่า 1 ปีที่ผ่านการคัดเลือกให้ได้ขึ้นไปปฏิบัติหน้าที่บนไอเอสเอส ต่อจากซาแมนธา คริสโตฟอเรตติ นักบินอวกาศชาวอิตาเลียน ซึ่งสร้างสถิติเป็นนักบินอวกาศหญิงที่ปฏิบัติหน้าที่นานที่สุด 199 วัน ก่อนเดินทางกลับมายังโลกเมื่อเดือน มิ.ย.ปีที่แล้ว
ปัจจุบันจรวดและแคปซูลโซยุซของรัสเซีย ถือเป็นพาหนะเพียงแบบเดียวที่สามารถนำมนุษย์ขึ้นสู่ไอเอสเอส โครงการร่วมมูลค่า 100,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3.52 ล้านล้านบาท ) ระหว่าง 15 ประเทศ โดยมีสหรัฐและรัสเซียเป็นหัวเรือใหญ่ อย่างไรก็ตาม นาซาหวังว่าจะสามารถกลับมาใช้ยานแคปซูลของตัวเองอีกครั้งภายในปี 2561 โดยเป็นโครงการพัฒนาร่วมกับโบอิ้งและสเปซเอ็กซ์
